คนมีรถบีอีวีเกินครึ่งมีฐานะซื้อเป็นคันที่ 2 ตลาดเช่าซื้ออีวีปีนี้โตแรงอีกกว่า 200%

206
0
Share:
คนมีรถ บีอีวี เกินครึ่งมีฐานะซื้อเป็นคันที่ 2 ตลาดเช่าซื้ออีวีปีนี้โตแรงอีกกว่า 200%

นายคงสิน คงคา ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านธุรกิจสินเชื่อยานยนต์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่าผู้ใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้า หรือรถบีอีวีในไทยมี 5 กลุ่มหลัก ที่เป็นลูกค้าสินเชื่อของประกอบไปด้วย

1. กลุ่มผู้บริหารที่มีฐานะ ซึ่งกลุ่มลูกค้าดังกล่าว ถือเป็นกลุ่มที่ใช้งานรถยนต์ไฟฟ้ากลุ่มแรกๆ และยังเป็นสัดส่วนที่สูงที่สุดของผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้าในปัจจุบัน โดยสนใจเรื่องดีไซน์และ แบรนด์ของรถ มองหาผลิตภัณฑ์และบริการที่ครอบคลุม โดยลูกค้ากลุ่มนี้จะซื้อรถยนต์ไฟฟ้าเป็นรถคันที่สอง และมีราคาในช่วงกลางค่อนสูง มีการวางเงินดาวน์สูง ผ่อนระยะสั้น

2. กลุ่มคนรุ่นใหม่ สายเทคโนโลยี รักษ์โลก โดยลูกค้ากลุ่มนี้จะให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีของรถยนต์ไฟฟ้าเป็นหลัก และยังมองหาการนำเสนอนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ๆ มีการศึกษาหาข้อมูลด้วยตนเอง ลูกค้ากลุ่มนี้จะซื้อรถราคากลางค่อนสูง วางเงินดาวน์สูง ผ่อนระยะกลางถึงยาว

3. กลุ่มผู้มีครอบครัว โดยลูกค้ากลุ่มนี้จะเน้นการขับขี่รถยนต์ไฟฟ้าในชีวิตประจำวันและวันหยุดพักผ่อน และมีรถยนต์ไฟฟ้าเป็นคันที่ 2 ซึ่งการซื้อรถยนต์ไฟฟ้านั้นคำนึงถึงการลงทุนระยะยาวเพื่ออนาคตของลูก และยังมองหาบริการที่ครอบคลุม สะดวกสบาย และอีโคซิสเต็มที่ไร้รอยต่อ ลูกค้ากลุ่มนี้จะซื้อรถยนต์ไฟฟ้าราคากลาง ๆ วางเงินดาวน์สูงผ่อนระยะสั้น

4. กลุ่มลูกค้าสายประหยัด เน้นใช้งานคล่อง ส่วนใหญ่กลุ่มลูกค้าดังกล่าวเป็นผู้ประกอบธุรกิจส่วนตัวขนาดเล็กที่ให้ความสำคัญกับความคุ้มค่า เน้นโปรโมชันต่างๆ แบบเหมารวม รวมถึงลูกค้ากลุ่มนี้ยังเปิดรับแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้ารายใหม่ ซื้อรถยนต์ไฟฟ้าราคาไม่แพงมาก มีการซื้อรถเงินสด วางเงินดาวน์สูง ผ่อนระยะสั้น โดยลูกค้ากลุ่มนี้หากมีการสนับสนุนจากภาครัฐจะเป็นกลุ่มที่มีโอกาสในการใช้รถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นในอนาคตได้

5. กลุ่มนักศึกษาจบใหม่ โดยข้อมูลจาก กรุงศรี ออโต้ ชี้ว่าลูกค้ากลุ่มดังกล่าวนี้มีศักยภาพในอีก 2-3 ปีข้างหน้า เมื่อโครงสร้างพื้นฐานของรถยนต์ไฟฟ้าพร้อม และราคาโดยรวมของตลาดลดลง รวมถึงมีตัวเลือกมากขึ้น โดยลูกค้ากลุ่มนี้จะซื้อรถราคากลาง ๆ วางดาวน์ต่ำ และผ่อนระยะยาว

ปัจจุบันลูกค้ากลุ่มที่ 1-3 นั้นครองสัดส่วนในพอร์ตสินเชื่อรถยนต์ไฟฟ้ามากถึง 80% และลูกค้ากลุ่มแรกนั้นครองส่วนแบ่งไปแล้วมากถึง 50%

ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านธุรกิจสินเชื่อยานยนต์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา กล่าวต่อไปว่า ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยที่กำลังเติบโตในปัจจุบันนั้น สะท้อนจากยอดจดทะเบียนยานยนต์ไฟฟ้าในปี 2022 อยู่ที่ 9,729 คัน เติบโต จากปี 2564 ที่มีเพียง 1,935 คันเท่านั้น สำหรับในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2023 ยอดจดทะเบียนอยู่ที่ 18,599 คัน ซึ่งได้ปัจจัยบวกจากการส่งเสริมของภาครัฐและเทรนด์การใช้งานรถยนต์ไฟฟ้า

ปัจจัยระยะยาวที่เอื้อต่อตลาดรถยนต์พลังงานไฟฟ้าในไทย ได้แก่องค์กรจำนวนมากในไทยตั้งเป้าในปี 2030 พยายามที่จะเป็นกลางทางคาร์บอน โดยลดการปล่อยมลพิษครึ่งหนึ่ง ทำให้มีเวลา 7 ปี ซึ่งเขามองว่ารถยนต์ไฟฟ้าทำให้ไปถึงเป้าหมายดังกล่าวได้

ทั้งนี้ ในปี 2566 กรุงศรี ออโต้ ตั้งเป้ายอดสินเชื่อใหม่ยานยนต์ไฟฟ้ารวมถึงมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าอยู่ที่ 4,624 ล้านบาท เติบโต 217% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ปัจจุบันสัดส่วนสินเชื่อดังกล่าวคิดเป็น 3% ของพอร์ตสินเชื่อรวมของบริษัท ขณะที่เป้ายอดสินเชื่อใหม่ผ่านช่องทางดิจิทัลทุกผลิตภัณฑ์ 16,000 ล้านบาท