นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีและประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ ม.หอการค้าไทย กล่าวว่า คาดว่าเทศกาลกกินเจปีนี้จะมีเงินสะพัดรวมทั้งสิ้น 45,903 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2% เมื่อเทียบกับกินเจปีก่อนที่มีเงินสะพัดที่ 45,003 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นมูลค่าสูงสุดในรอบ 5 ปี อย่างไรก็ตาม แม้ว่ามูลค่าจะเพิ่มขึ้น แต่ก็เพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อย เนื่องจากประชาชาส่วนใหญ่ยังระมัดระวังการใช้จ่ายเนื่องจากมองว่าเศรษฐกิจโดยรวมยังไม่ดี รวมทั้งเทศกาลกินเจปีนี้ยังไม่ได้รับผลจากโครงการคนละครึ่งที่จะเริ่มใช้เงินในวันที่ 29 ต.ค.2568
โดยจากผลสำรวจถึงพฤติกรรมและการใช้จ่ายของประชาชนในช่วงเทศกาลกินเจปี2568 ว่า จากการสำรวจ1,272 ตัวอย่างทั่วประเทศ ระหว่างวันที่ 6 – 12 ต.ค.2568 ว่า คนส่วนใหญ่ 66% ไม่กินเจ มีการกินเจเพียง 34 % เหตุผลที่กินเจ เนื่องจากตั้งใจทำบุญ รองลงมา กินเฉพาะเทศกาล มีกินฟรีที่โรงเจ และมีคุณค่าทางอาหาร
สำหรับอาหารเจปีนี้ผู้ตอบส่วนใหญ่ 73.9% มองว่ามีราคาแพงขึ้น , 23.5 % มองว่าเท่าเดิม และ2.6%มองว่า ลดลง โดยคนที่กินเจ 7.1 % ระบุว่ามีการวางแผนเดินทางไปทำบุญตามสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ด้วย โดยมีมูลค่าเดินทางไปทำบุญเฉลี่ย5,066 บาท /คน ส่วนมูลค่าทำบุญเฉลี่ยอยู่ที่ 1,746 บาท/คน
เมื่อถามถึงพฤติกรรมการใช้จ่ายกินเจปีนี้เทียบปีก่อน ในเชิงปริมาณการซื้อ ส่วนใหญ่ 52.8 % ตอบว่าซื้อในปริมาณที่เท่าเดิม ส่วนมูลค่าในการซื้อ ส่วนใหญ่ 47.0% ซื้อในมูลค่าเท่ากับปีก่อนเช่นกัน และมองว่าเทศกาลกินเจปีนี้คึกคักใกล้เคียงกับปปีก่อน
ส่วนแหล่งที่มาของเงินที่ใช้จ่ายกินเจ ส่วนใหญ่ 72.8% ใช้รายได้ประจำ ,15.2 % ใช้ เงินออม, 8.4 % ใช้ เงินคนในครอบครัว , 2.2 %ใช้เงินช่วยเหลือจากภาครัฐ และ1.4%นำ รายได้พิเศษมาใช้