คนอิตาเลียนแห่ดื่มชานมไข่มุก ดันตลาดโตทึ่งปีละ 18% แต่ไร้แบรนด์ชานมของคนไทย

นางสาวอนงค์นารถ มหาสวัสดิ์ ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ (ทูตพาณิชย์) ณ เมืองมิลาน ประเทศอิตาลี เปิดเผยว่า “ตลาดชาไข่มุกในอิตาลียังเติบโตได้อีกมาก เนื่องจากเป็นสินค้าที่เข้ามาในตลาดได้ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา จึงเป็นโอกาสดีสำหรับการลงทุนทั้งในเรื่องการทำธุรกิจแบบแฟรนไชส์ (Franchise) และในการจัดหาวัตถุดิบต่างๆ ที่ยังจำกัดในวงแคบ แม้บางรายการสามารถผลิตได้แล้วในอิตาลีก็ตาม

จากข้อมูล พบว่าตลาดชานมไข่มุกในอิตาลีในปี 2565 มีมูลค่าการค้าถึง 42 ล้านยูโร หรือประมาณ 1,500 ล้านบาท หรือมากกว่า 15% ของตลาดทั้งยุโรป และยังถูกคาดว่าจะเติบโตเฉลี่ยที่ 18% ต่อปีไปมีมูลค่าถึง 98 ล้านยูโร ประมาณ 3,600 ล้านบาทภายในปี 2570 ขณะที่ในปี 2565 ตลาดชานมไข่มุกโลกมีมูลค่าการค้า 2,750 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 95,000 ล้านบาท

ธุรกิจร้านชานมไข่มุกในประเทศอิตาลีส่วนใหญ่กระจายอยู่ในเมืองขนาดใหญ่ของอิตาลีประมาณ 30 เมือง เช่น มิลาน โรม โบโลญญ่า และตูริน ข้อมูลในเดือนมีนาคม 2566 พบมีร้านชานมไข่มุก จำนวน 236 ร้านกระจายอยู่ทั่วไป

หากพิจารณาให้ดีจะพบว่า ตลาดชานมไข่มุกในอิตาลียังคงกระจัดกระจายอย่างมาก ยังไม่มีผู้นำที่ชัดเจนและโดดเด่น จึงยังเหลือพื้นที่อีกมาก ปัจจุบันมีเพียง 3 เจ้าหลักที่มียี่ห้อติดตลาดแล้วในปัจจุบัน คือ Bobble Bobble, Frankly และ Mistertea ซึ่ง 3 ยี่ห้อนี้มีส่วนแบ่งการตลาดทั้งหมด 13% และธุรกิจกำลังขยายตัวในรูปแบบของมุมเล็กๆ ในซูเปอร์มาร์เก็ต ตามสถานีรถไฟ หรือสถานที่ที่มีคนเดินสัญจรมาก ซึ่งจะทำให้สินค้าขยายตัวได้รวดเร็วยิ่งขึ้น

ทั้งนี้ จึงเป็นโอกาสที่ดีในของผู้ประกอบการไทยและร้านอาหารไทย ที่จะขยายตลาดชาไทยและวัตถุดิบสำหรับทำชานมไข่มุก เนื่องจากตลาดแฟรนไชส์ของไทยที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับชาไข่มุกก็มีจำนวนมาก และนอกจากนี้ เว็บไซต์ tasteatlas ก็ยังจัดอันดับให้ชาเย็น หรือชานมเย็นของไทย (Thai Iced Tea) เป็นเครื่องดื่มไม่มีแอลกฮอล์ที่มีรสชาติดีที่สุดในโลกในอันดับ 7 จากทั้งหมด 100 อันดับ