คนไทยฉีดไฟเซอร์ 2 เข็มเป็นบูสเตอร์ ดันภูมิคุ้มกันพุ่ง หมอยันมีประโยชน์ชัดเจน ลดการสูญเสียได้

521
0
Share:

นายธนรัตน์ รักอริยะพงศ์ ผู้อำนวยการฝ่ายจัดซื้อ บริษัท เซ็ปเป้ จำกัด (มหาชน) และกรรมการผู้จัดการ บริษัท ฮายาชิ โปรดักส์ จำกัด โพสต์เฟซบุ๊กเกี่ยวกับการได้รับการวัคซีนวัคซีนไฟเซอร์เป็นเข็มที่ 3 โดยก่อนหน้ารับการฉีดวัคซีนซิโนแวค 2 เข็ม มีดังนี้

หลังจากผมและเพื่อนเดินทางทางกลับจากอเมริกา หลังฉีดไฟเซอร์ ก็ได้รับการติดต่อจากอาจารย์หมอที่ทำการศึกษาเรื่องภูมิคุ้มกัน ให้มาตรวจภูมิคุ้มกับแบบ neutralize antibody (ภูมิคุ้มกันที่ใช้ในการ neutralize ไวรัส) และภูมิคุ้มกันต่อไวรัสโควิด-19 ทั้ง 5 สายพันธุ์ โดยเฉพาะสายพันธุ์กลายพันธุ์เดลต้า เบต้า และ แกมม่า ที่ศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ รพ.จุฬาฯ และ biotec ซึ่งมีข้อมูลว่าประสิทธิภาพของวัคซีนหลายชนิดลดลงมากต่อไวรัสกลายพันธุ์

เมื่อวานนี้อาจารย์ส่งข้อมูลมาให้ดูว่า ผลตรวจของผมและเพื่อน แม้ว่าระดับ neutralize antibody จะสูงกว่า 90% ทั้งคู่ ของผม 99.5% ของเพื่อน 94.2% แต่เมื่อดูเฉพาะเจาะจงลงไปในการยั้งไวรัส 5 สายพันธุ์ด้วยค่า PVNT50 ของผม ซึ่งเคยได้ซิโนแวค 2 เข็ม มาก่อนที่จะไปฉีดไฟเซอร์ มีค่าที่สูงมากกว่าชัดเจน (แท่งสีน้ำตาล) เทียบกับเพื่อนที่ได้ไฟเซอร์ อย่างเดียว (สีฟ้า)

อาจารย์สรุปให้ฟังคร่าว ๆ ว่าข้อมูลนี้เป็นประโยชน์มาก ในกรณีผม ยกตัวอย่างให้เห็นว่า การได้ไฟเซอร์ เป็น boost vaccine ได้ประโยชน์ชัดเจน และผลการทดสอบใน lab สามารถต้านทานไวรัสได้ทั้ง 5 สายพันธุ์ โดยเฉพาะสายพันธุ์ที่เป็นปัญหาใหญ่ในขณะนี้ อาจเป็นเคสตัวอย่างที่ควรทำการศึกษาต่อ โดยเฉพาะเร็ว ๆ นี้บุคลากรทางการแพทย์ส่วนมากที่ได้ซิโนแวคมาก่อน เมื่อได้รับไฟเซอร์เป็น boost vaccine ถ้าได้ผลดีแบบนี้ น่าจะช่วยลดความสูญเสียได้มาก