คนไทยมีรายได้ปานกลาง 50,000 บาท ซื้อได้แค่บ้าน-ทาวเฮ้าส์-คอนโดใหม่ไม่เกิน 3 ล้านบาท

285
0
Share:
คนไทย มี รายได้ปานกลาง 50,000 บาท ซื้อได้แค่ บ้าน - ทาวเฮ้าส์ - คอนโด ใหม่ไม่เกิน 3 ล้านบาท

สำนักวิจัยธนาคารไทยพาณิชย์ หรือ SCB EIC เปิดเผย ทาวน์เฮ้าส์ และคอนโดมิเนียมระดับราคาปานกลางลงมาไม่เกิน 3 ล้านบาท ยังเป็นตัวเลือกสำหรับการซื้อที่อยู่อาศัย กลุ่มที่มีรายได้ระดับปานกลางลงมาที่มองหาที่อยู่อำศัยหลังแรก ซึ่งเป็นกลุ่ม Real demand ที่สำคัญ โดยหน่วยที่อยู่อาศัยเหลือขายสะสมของทาวน์เฮ้าส์ และคอนโดมิเนียมระดับราคาไม่เกิน 3 ล้านบาทคิดเป็นสัดส่วน 52% ของจำนวนหน่วยที่อยู่อาศัยเหลือขายสะสมโดยรวม

นอกจากนี้ ทาวน์เฮ้าส์และคอนโดมิเนียมมือสองยังเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับกลุ่มที่มีรายได้ระดับปานกลางลงมาในยุคที่ราคาที่อยู่อาศัยใหม่มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง หน่วยโอนกรรมสิทธิที่อยู่อาศัยมือสองในกรุงเทพฯ และปริมณฑลในปี 2022 ขยายตัวแตะระดับ 95,471 หน่วย เพิ่มขึ้น 3% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันในปีผ่านมา โดยเป็นการขยายตัวของหน่วยโอนกรรมสิทธิ ทั้งที่อยู่อาศัยแนวราบและคอนโดมิเนียม สะท้อนความนิยมที่อยู่อาศัยมือสองในระยะที่ผ่านมา

อีกทั้งหน่วยโอนกรรมสิทธิคอนโดมิเนียมมือสองยังสามารถขยายตัวได้อย่างต่อเนื่องในช่วงเดือนแรกของปี 2023 อยู่ที่ 18,832 หน่วย เมื่อเทียบช่วงเดียวกันในปีผ่านมา แม้หน่วยโอนกรรมสิทธิที่อยู่อาศัยแนวราบมือสองจะหดตัวลง -7% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันในปีผ่านมา ในช่วง 7 เดือนแรกของปี 2023 จากฐานที่สูงในปีก่อนหน้า แต่ก็ยังเป็นการหดตัวในอัตรราที่ต่ำกว่าการหดตัวของจำนวนหน่วยโอนกรรมสิทธิที่อยู่อาศัยแนวราบใหม่ที่หดตัวลง -10% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันในปีผ่านมา

นอกจากนี้ ผู้ตอบแบบสอบถามของ SCB EIC ที่วางแผนเช่า จะพบว่าสาเหตุหลักมาจากงบประมาณไม่พอสำหรับการซื้อ โดยส่วนใหญ่มีรายได้ต่ำกว่า 50,000 บาท/เดือน

SCB EIC มองว่าราคาที่อยู่อาศัยใหม่ที่ปรับตัวสูงขึ้นไปตามต้นทุนต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง ทั้งราคาที่ดิน และต้นทุนก่อสร้าง ประกอบกับการที่ผู้ซื้อที่อยู่อาศัยมือสองสามารถต่อรองราคากับผู้ขายได้ ส่งผลให้ราคาที่อยู่อาศัยมือสองยังต่ำกว่าราคาที่อยู่อาศัยใหม่ค่อนข้างมาก โดยในช่วงปี 2021-2023 ที่ผ่านมา พบว่าราคาโอนกรรมสิทธิทาวน์เฮ้าส์มือสองในกรุงเทพฯ และปริมณฑลเฉลี่ย ยังต่ำกว่าทาวน์เฮ้าส์ใหม่อยู่ที่ราว 1.2-1.4 ล้านบาทรวมถึงราคาโอนกรรมสิทธิ คอนโดมิเนียมมือสองเฉลี่ยยังต่ำกว่าคอนโดมิเนียมใหม่อยู่ที่ราว 1. -2.0 ล้านบาท ซึ่งถือว่าเป็นส่วนต่างราคาที่ค่อนข้างต่ำมาก จึงกล่าวได้ว่าทาวน์เฮ้าส์และคอนโดมิเนียมมือสองยังมีข้อได้เปรียบด้านราคา และยังเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับกลุ่มที่มีรายได้ระดับปานกลางลงมา ในยุคที่ราคาที่อยู่อาศัยใหม่มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ การหาขนาดที่ดินผืนใหญ่เพื่อพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยเป็นไปได้ยากขึ้น โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ ชั้นใน และชั้นกลาง ส่งผลให้ที่อยู่อาศัยมือสอง ที่อยู่ในทำเลดังกล่ำวซึ่งมีราคาต่ำกว่าที่อยู่อำศัยใหม่ในทำเลเดียวกัน โดยเฉพาะที่อยู่อาศัยแนวราบกลายมาเป็นทางเลือกสำหรับผู้ซื้อที่อยู่อาศัยอีกด้วย

ดังนั้น ผู้ประกอบการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยอาจหันมาทำการตลาดกระตุ้นการซื้อเพื่อระบายที่อยู่อาศัยเหลือขายสะสมกลุ่มดังกล่าวจะมีส่วนสำคัญในการช่วยเร่งให้หน่วยที่อยู่อาศัยเหลือขายสะสมโดยรวมในตลาดปรับตัวลดลง