คนไทยหลอน รัฐแคลิฟอร์เนียติดโควิด-19 เกิน 1 ล้านคน

889
0
Share:

สถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 ทั่วโลกเป็นไปอย่างรุนแรงต่อเนื่อง โดยในรอบ 24 ชั่วโมงผ่านมาถึงวันนี้ 13 พฤศจิกายน เมื่อเวลา 8.30 น. มีจำนวนติดรายวันทั่วโลกทะยานขึ้นถึง 640,911 รายส่งผลสร้างสถิติติดเชื้อรอบ 24 ชั่วโมงครั้งใหม่เป็นประวัติการณ์ หรือนับตั้งแต่เกิดการระบาดโรคโควิด-19 บนโลกเป็นต้นมา
.
ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคระบาดแห่งชาติสหรัฐอเมริกา หรือ CDC เปิดเผยว่า จำนวนผู้ติดโรคโควิด-19 ในรอบ 1 วัน เมื่อถึงวันที่ 13 พฤศจิกายน (ตามเวลาในสหรัฐ) พุ่งทะยานทำสถิติใหม่ที่ 159,800 ราย ทำสถิติพุ่งสูงสุดนับตั้งแต่เกิดโรคระบาดโควิด-19 ในสหรัฐ และของโลกเป็นต้นมา และยังทำสถิติมากกว่าวันละ 100,000 รายเป็นครั้งที่ 8 โดยสถิติเดิมเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน ทะยานถึง 144,354 ราย ดังนั้น ส่งผลให้จำนวนผู้ติดโรคโควิด-19 สะสมพุ่งเป็น 10,869,976 ราย เป็นอันดับ 1 ของโลก ในขณะที่จำนวนผู้เสียชีวิตในรอบ 1 วันพุ่งขึ้น 1,145 ราย ทำสถิติจำนวนผู้เสียชีวิตมากกว่าวันละ 1,000 คน เป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน ทำให้จำนวนสะสมเพิ่มเป็น 248,543 ราย
.
ขณะที่ จำนวนผู้เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลทั่วประเทศ ทะยานขึ้นอย่างน้อย 64,939 รายในวันพุธที่ 11 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ทำสถิตมากที่สุดรายวันนับตั้งแต่เกิดโรคระบาดโควิด-19 ในสหรัฐอเมริกา นั่นหมายถึง มีอัตราพุ่งสูงถึง 41% ใน 2 สัปดาห์ที่แล้ว
.
มหาวิทยาลัย จอห์น ฮอพกิ้นส์ แห่งสหรัฐอเมริกา เปิดเผยต่อไปว่า ในวันนี้ 13 พฤศจิกายน รัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งเป็นรัฐที่มีชุมชน และชาวไทยอาศัยอยู่มากที่สุดในสหรัฐอเมริกา มีจำนวนผู้ติดโรคโควิด-19 ใน 1 วันผ่านมา เพิ่มขึ้น 8,769 ราย ทำให้จำนวนติดเชื้อสะสมทะลุ 1 ล้านราย มาอยู่ที่ 1,006,667 ราย กลายเป็นรัฐที่ 2 ที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อเกิน 1 ล้านคน ต่อจากรัฐเท็กซัสที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 1,065,432 ราย ซึ่งเกินกว่า 1 ล้านรายเป็นรัฐแรกในสหรัฐอเมริกาเมื่อวันพุธที่ 11 พฤศจิกายน ส่งผลให้ทั้งรัฐเท็กซัส และแคลิฟอร์เนียมีจำนวนผู้ติดโรคระบาดโควิด-19 เป็น 20% ของผู้ติดเชื้อทั้งสหรัฐอเมริกา
.
สำหรับภาวะการระบาดในรัฐแคลิฟอร์เนียนั้น พบว่า เมืองลอส แองเจลิส มีจำนวนผู้ติดเชื้อมากที่สุดถึง 1 ใน 3 หรือราว 33% ของรัฐแคลิฟอร์เนีย โดยในระหว่างวันที่ 7-10 พฤศจิกายน มีจำนวนติดเชื้อเฉลี่ยวันละกว่า 2,000 คนขึ้นไป นั่นหมายถึงทุกๆ 40 คน จะพบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 จำนวน 1 ราย อัตราการติดเชื้อใน 14 วัน พุ่งสูงขึ้นถึง 3.9% ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 2.5% เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม นอกจากนี้ จำนวนผู้ติดเชื้อรายวันเร่งตัวขึ้นต่อเนื่องนับตั้งแต่เดือนกันยายนเป็นต้นมา
.
ด้านสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 ฝั่งตะวันออกของสหรัฐอเมริกา ยังคงมีความรุนแรงไม่แตกต่างกัน โดยเฉพาะในภูมิภาคตะวันตกตอนกลาง นายลอรี่ ไลท์ฟุท นายกเทศมนตรีเมือง ชิคาโก ในรัฐอิลลินอยส์ ประกาศแนะนำให้ประชาชนชาวอเมริกันในเมืองชิคาโก ให้อยู่แต่ในบ้านเป็นเวลา 1 เดือน หากไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำนี้ ชาวอเมริกันในเมืองชิคาโก ซึ่งมีขนาดใหญ่อันดับ 3 ของสหรัฐอเมริกา จะเสียชีวิตเพิ่มสูงอีก 1,000 รายภายในสิ้นปี 2563 ด้านสถาบันมิติสาธารณสุข และการประเมิน แห่งมหาวิทยาลัยวอชิงตัน เปิดเผยว่า แนวโน้มการเสียชีวิตรายวันของผู้ป่วยโรคโควิด-19 จะเพิ่มเป็นวันละ 2,000 รายในกลางเดือนมกราคม 2564 นั่นหมายถึง จะมีจำนวนผู้เสียชีวิตสะสมในสหรัฐอเมริกาเป็น 439,000 รายภายในวันที่ 1 มีนาคม 2564 ซึ่งเพิ่มขึ้นเกือบ 2 เท่าจากตัวเลขในปัจจุบัน
.
สำนักข่าวรอยเตอร์ส เปิดเผยผลการติดตามจำนวนผู้ติดเชื้อในสหรัฐอเมริกา พบว่า จำนวนชาวอเมริกันติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ที่เพิ่มขึ้นมากกว่า 2 เท่าใน 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา มีทั้งหมด 13 จาก 50 รัฐทั่วประเทศ โดยส่วนใหญ่อยู่ในรัฐ ไอโอวา มินนิโซตา มิชิแกน และอิลลินอยส์
.
ทั้งนี้ สถาบันสุขภาพโลก คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนอร์ทเวสท์เทิร์น สหรัฐอเมริกา เปิดเผยว่า ถ้าหากรัฐบาล หรือองค์กรที่เกี่ยวกับด้านสาธารณสุขไม่รีบปรับเปลี่ยนมาตรการในการป้องกันและควบคุมสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 มีความเป็นไปได้สูงที่ชาวอเมริกันจะเสียชีวิตทะยานขึ้นกว่า 100,000 คนภายในวันที่ 20 มกราคม 2564 ซึ่งเป็นวันสุดท้ายในการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐของนายโดนัลด์ ทรัมป์