คมนาคมปิ๊งไอเดียติด GPS ทุกคันลดอุบัติเหตุ

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ได้มอบให้ กรมการขนส่งทางบกหรือ ขบ. ไปศึกษาการกำหนดให้รถยนต์และรถจักรยานยนต์ส่วนบุคคลต้องติดตั้งเครื่องบันทึกข้อมูลการเดินทางของรถ หรือ GPS เพิ่มเติม นอกเหนือไปจากรถสาธารณะ 4 ประเภทที่ถูกบังคับใช้ไปก่อนหน้านี้แล้ว คือ รับจ้างรถบรรทุก รถตู้โดยสาร และโดยสารขนาดใหญ่
.
เพื่อเร่งลดอุบัติเหตุ เนื่องจากสามารถควบคุมความเร็วรถและตรวจสอบข้อมูลการขับขี่ได้ และการตั้งด่านสกัดจับเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุเท่านั้น
.
โดยให้ขบ. ศึกษา ในเรื่องราคาอุปกรณ์จีพีเอส และค่าบริการรายเดือนจะต้องไม่แพง จะเริ่มจากรถใหม่ก่อน โดยในเดือนนี้ปลัดกระทรวงคมนาคม และอธิบดีกรมการขนส่งจะไปหารือกับกระทรวงอุตสาหกรรม เพื่อดูราคาจีพีเอสเพราะขณะนี้ทราบว่าราคาลดลงแล้ว เหลือเพียง 3,000 บาท จากเดิมกว่าหมื่นบาท และค่าบริการ GPS รายเดือนลดลงเหลือ 300 บาท จากเดิม 500-700 บาท ส่วนรถเก่าก็จะมีมาตราการค่อยๆบังคับใช้ต่อไป
.
โดยประเทศไทยจะเป็นประเทศในแรกที่ทำแบบนี้ ไม่มีอะไรเป็นของฟรีในโลก แต่เรากำลังช่างน้ำหนักว่า สิ่งที่จะนำมาใช้จะเกิดประโยชน์อย่างไร หากจะต้องออกเป็นกฎกระทรวงบังคับใช้คงต้องใช้เวลาอีก 6 เดือน หรือถ้าเป็นกฎหมายต้องใช้เวลาเป็นปี แต่ไทยต้องกล้านับหนึ่ง ซึ่งคาดว่าภายใน 1ปี จะได้ข้อสรุปที่ชัดเจนเรื่องนี้
.
ส่วนจะเป็นการละเมิดสิทธิ์ส่วนบุคคลหรือไม่นั้น ต้องไปดูกฎหมายเกี่ยวกับสิทธิ์ส่วนบุคคลฉบับอื่นๆประกอบด้วย แต่ต้องดูว่าผลที่ได้รับจากการติด GPS คืออะไร ซึ่งจะเห็นว่าประโยชน์มีมาก อย่างน้อยการก่ออาชญากรรม จะลดลง เช่น การขโมยรถ การกำกับความเร็วรถจากจีพีเอสก็ช่วยรถลดปัญหาอุบัติเหตุได้ อย่างไรก็ตาม เรื่องดังกล่าวจะต้องมีการเปิดรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนด้วย ว่าจะเห็นด้วยหรือไม่ แต่บางเรื่องยอมรับว่าอาจจะกระทบสิทธิ์ประชาชน แต่ถ้าไม่เกิดความเสียหายมากนัก และเกิดประโยชน์ลดอุบัติเหตุและลดความเสียหายได้ บางครั้งก็คงต้องยอม
.
นอกจากนี้ได้ให้ไปศึกษาระเบียบกฎหมายเพื่อให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมตรวจสอบรถที่ทำผิดกฎหมายด้วย โดยหากสามารถแจ้งเบาะแสจนนำตัวผู้กระทำความผิดกฎจราจรมาลงโทษตามกฎหมายจะได้รับแบ่งสินบนนำจับให้ด้วย เช่น การถ่ายภาพ รูป หรือเหตุการณ์ เชื่อว่ามาตรการนี้จะช่วยลดอุบัติเหตุ และจะทำให้การจราจรคล่องตัวมากขึ้น คาดว่าภายใน 1 เดือนจะบังคับใช้มาตรการสินบนนำจับได้
.
นอกจากนี้ ยังกำชับให้ ขบ.บังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มข้นกับรถทุกประเภททั้งส่วนบุคคลและสาธารณะ เพื่อไม่ให้มีการกระทำความผิดซ้ำซากโดยจะนำมาตรการตัดแต้มคน และรถมาบังคับใช้ รวมถึงเข้มงวดการเรื่องการออกใบขับขี่ให้มากขึ้น โดยหากพบว่าผู้ขับขี่มีการกระทำผิดตามกฎหมายจะถูกตัดคะแนน จากปกติที่มีคะแนนเต็ม 100 คะแนน และหากถูกตัดหมด ขบ.จะยึดคืนใบขับขี่ทันที รวมถึงการตัดคะแนนกรณีตรวจสอบสภาพรถไม่ผ่านด้วย หากถูกตัดจนครบ 100 คะแนนจะถูกพักใช้รถทันที
.
ซึ่งมาตรการตัดแต้มครั้งนี้จะเป็นการดำเนินการภายใต้ภายใน พ.ร.บ.พระราชบัญญัติการขนส่งทางบก พ.ศ.2522 เป็นคนละส่วนกันกับมาตรการตัดแต้มของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ คาดว่าจะใช้เวลาในการศึกษาและสรุปได้ภายใน 2 เดือน