ครม.ทุ่มงบกลางกว่า 1,400 ล้านบาท เร่งทำโครงการพาณิชย์…ลดราคา! ช่วยประชาชน

295
0
Share:
รัฐบาล

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบอนุมัติเงินงบประมาณรายจ่ายงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น วงเงินรวม 1,480 ล้านบาท เพื่อดำเนินโครงการพาณิชย์…ลดราคา! ช่วยประชาชน ปี 2565 ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในสถานการณ์การระบาดของเชื้อโควิด-19 เพิ่มช่องทางในการเลือกซื้อสินค้าในราคาประหยัดให้แก่ประชาชนได้อย่างทั่วถึง  ซึ่งจะก่อให้เกิดการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น

ซึ่งจะเป็นการจำหน่ายสินค้าที่จำเป็นต่อการครองชีพในราคาประหยัดจำนวน 90 วัน โดยมีรายละเอียด ดังนี้

1. กิจกรรมบริหารจัดการจำหน่ายสินค้าผ่านช่องทางจำหน่าย โดยจัดหาสถานที่จำหน่าย และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เพื่อจำหน่ายสินค้าที่จำเป็นต่อการครองชีพ อาทิ การจำหน่ายผ่านบริเวณร้านสะดวกซื้อ ห้างท้องถิ่น หรือตลาด พื้นที่สาธารณะ หรือลานอเนกประสงค์ และสถานีบริการน้ำมัน ไม่น้อยกว่า 3,000 จุด ตามแหล่งชุมชน และการจำหน่ายผ่านรถจำนวนไม่น้อยกว่า 50 คัน ตามแหล่งชุมชนในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และปริมณฑล

2. กิจกรรมการส่งเสริมการจำหน่ายสินค้าที่จำเป็นต่อการครองชีพ เพื่อจัดหาและจำหน่ายสินค้าที่จำเป็นต่อการครองชีพตามชนิด ปริมาณ และราคาตามที่กรมฯ กำหนด เช่น สินค้าเกษตร เนื้อไก่ ไข่ไก่ สินค้าอุปโภคบริโภค เป็นต้น จากสมาคม, ผู้ค้าปลีก, ค้าส่ง หรือ Supplier ในพื้นที่ เพื่อจำหน่ายในจุดจำหน่าย

3. กิจกรรมการประชาสัมพันธ์ เพื่อดำเนินการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ ให้ประชาชนได้รับทราบในวงกว้างผ่านสื่อต่างๆ รวมทั้งจัดกิจกรรมรณรงค์กระตุ้นการบริโภค

ทั้งนี้ “โครงการพาณิชย์…ลดราคา! ช่วยประชาชน ปี 2565 จะช่วยลดภาระค่าครองชีพและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน ในช่วงการระบาดของโควิด-19 และภาวะการปรับราคาสินค้าขึ้นอย่างต่อเนื่องจากโรคระบาดในสัตว์ อีกทั้งจะเป็นเพิ่มช่องทางในการเลือกซื้อสินค้าอุปโภคบริโภค ที่มีความจำเป็นต่อการดำรงชีวิตประจำวันในราคาประหยัด ซึ่งเป็นปัญหาที่ต้องเร่งแก้ในขณะนี้

นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม สั่งการให้มีการติดตามเรื่องราคาสินค้าแพง และสั่งการให้มีการเปิดร้านธงฟ้า เพื่อจำหน่ายสินค้าเพื่อเป็นทางเลือกให้กับประชาชนในการซื้อสินค้าราคาประหยัด เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนในเบื้องต้น และขอให้กระทรวงพาณิชย์รายงานความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาให้กับครม.รับทราบเป็นประจำทุกสัปดาห์ด้วย เพราะนายกฯเป็นห่วงและกังวลว่าประชาชนจะได้รับความเดือดร้อนจากราคาสินค้าที่มีราคาสูงขึ้น