ครม.นัดพิเศษ เคาะพ.ร.ก.กู้เงิน 3 ฉบับ ออกมาตรการเยียยวยาเฟสที่ 3

978
0
Share:

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีกล่าวถึงการประชุมคณะรัฐมนตรีนัดพิเศษเต็มคณะ ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เพื่อพิจารณาพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) กู้เงินฉุกเฉิน และมาตรการเศรษฐกิจเพื่อเยียวยาผลกระทบของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด 19 เฟสที่ 3ว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบหลักการ พ.ร.ก. กู้เงินทั้งสิ้น 3 ฉบับ ที่ออกโดยธนาคารแห่งประเทศไทย 2 ฉบับ และกระทรวงการคลัง 1 ฉบับ ซึ่งคาดว่าจะใช้วงเงินประมาณร้อยละ 10 ของจีดีพี เพื่อรักษากลไกเศรษฐกิจให้สามารถรอดพ้นวิกฤติในครั้งนี้ไปได้
.
ทั้งนี้ยอดเงิน ร้อยละ 10 ของ จีดีพี. ปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 1.6 ล้านล้านบาท
.
นายสมคิด กล่าวว่า ส่วนหนึ่งของเงินในการแก้ไขวิกฤติครั้งนี้ จะมางบประมาณที่แบ่งจากกระทรวงต่างๆ ร้อยละ 10 ด้วย และมาตรการออกมานั้นจะครอบคลุมทุกมิติ คือ ดูแลประชาชน เยียวยาเศรษฐกิจในอีก 2-3 เดือนข้างหน้า
ด้านนายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ยืนยันว่า วงเงินร้อยละ 10 ของ จีดีพี. ไม่ได้มาจากการกู้ทั้งหมด ต้องพิจารณาเงินจากงบประมาณก่อน หากงบประมาณใช้ได้ดี การออก พ.ร.ก.กู้เงิน ก็อาจจะไม่ใช่ร้อยละ 10 ของจีดีพี.
.
โดยมาตรการที่ดูแล 3 ทั้งกลุ่ม คือ 1.การดูแลภาคประชาชน จะเริ่มดูแลกลุุ่มเกษตรกร ผู้ประกอบการลูกจ้างที่อยูู่ในระบบประกันสังคมและลูกจ้างชั่วคราว รวมทั้งมาตรการผ่อนชำระสินเชื่อเพิ่มเติมในส่วนของสถาบันการเงินที่ไม่ใช่ธนาคารพาณิชย์
.
2.การดูแลโครงสร้างเศรษฐกิจจริงผู้ประกอบการและสังคม ด้วยการจัดงบประมาณสำหรับการดูแลด้านสาธารณสุข และชุดมาตรการที่ดูแลในระดับพื้นที่ การเสริมสร้างอาชีพโอกาสใหม่ๆให้กับพื้นที่และภาคประชาชน การลงทุนภาครัฐเพื่อยกระดับโครงสร้างพื้นฐาน
.
3.การดูแลภาคเศรษฐกิจการเงิน โดยธนาคารแห่งประเทศ(ธปท.)ไทยจะทำโครงการเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ หเมือนที่เคยทำมาในอนาคต ซึ่งธปท.จะเสนอให้ครม.เห็นชอบอย่างเป็นทางการพร้อมพระราชกำหนดในวันอังคารที่จะถึงนี้
.
นอกจากนี้กลต.และธนาคารแห่งประเทศไทยยังรวมกันพิจารณามาตรการดูแลตลาดตราสารหนี้ที่มีมูลค่า 3.5 ล้านล้านบาท โดยจะให้ธปท. สามารถเข้าไปซื้อตราสารหนี้ที่ครบกำหนด เพื่อโรลโอเวอร์ได้ และจะขอขยายระยะเวลาคุ้มครองเงินฝากออกไป จาก 5 ล้านบาท เหลือ 1 ล้านบาท ที่จะครบกำหนดในเดือนสิงหาคมปีนี้ เป็นสิ้นสุดเดือนสิงหาคมปี 2564 รวมทั้งให้ลดเงินนำส่งกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและสถาบันการเงิน