ครม.ยังไม่พิจารณาขยายสัมปทานทางด่วนให้ BEM

770
0
Share:

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า การประชุมครม. ยังไม่ได้นำเสนอข้อสรุปแนวทางการยุติข้อพิพาทระหว่าง การทางพิเศษแห่งประเทศไทย หรือ กทพ. กับบมจ.ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ หรือ BEM และบริษัท ทางด่วนกรุงเทพเหนือ จำกัด โดยได้มีการรายงานข้อมูลต่อนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี รับทราบถึงการขยายสัญญาโครงการทางด่วน เป็นระยะเวลา 15 ปี 8 เดือน แลกกับการยุติข้อพิพาททั้งหมด ซึ่งมีมูลค่าที่ 58,873 ล้านบาท โดยไม่มีการลงทุนก่อสร้างปรับปรุงทางด่วนชั้นที่ 2 หรือ Double Deck แล้ว
.
โดยนายวิษณุได้รับฟังข้อมูลแล้วไม่ได้มีข้อขัดข้องใดๆ โดยได้ให้ความเห็นว่า ให้กระทรวงคมนาคมดำเนินการตามมติครม. คือ ดำเนินการตามขั้นตอน ของคณะกรรมการกำกับฯ ตามมาตรา 43 แห่ง พ.ร.บ. การให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ พ.ศ. 2556 และเจรจากับเอกชนให้ยุติ จากนั้นให้สรุปเรื่องนำเสนอครม.ในคราวเดียว
.
ดังนั้นกระทรวงคมนาคม และกทพ. รวมถึงสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร หรือ สนข. ได้ทำแผนปฏิบัติการในการดำเนินงาน โดยภายในวันนี้กระทรวงคมนาคมจะส่งเรื่องให้กทพ. เพื่อดำเนินการเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการ กทพ.ที่มีนายสุรงค์ บูลกุล เป็นประธาน ซึ่งคาดว่าจะประชุมในวันที่ 26 ธ.ค. จากนั้นจะนำผลไปเจรจากับเอกชน ให้ได้ข้อยุติ และนำเสนอต่อคณะกรรมการกำกับฯ ตามมาตรา 43
.
ขณะเดียวกันก็ส่งร่างสัญญาที่จะแก้ไขให้สำนักงานอัยการสูงสุดตรวจพิจารณา เพื่อดำเนินการแก้ไขสัญญาตามมาตรา 47 แห่ง พ.ร.บ. การให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ พ.ศ. 2556 ตามบทเฉพาะกาล มาตรา 68 ของ พ.ร.บ. ร่วมทุนฯ ปี 2562 และส่งความเห็นมายังกระทรวงคมนาคม เพื่อนำเสนอครม.พิจารณาต่อไป
.
โดยกระทรวงคมนาคมได้มีคณะทำงานศึกษาเรื่องนี้มาระยะหนึ่ง อย่างรอบคอบทั้งแง่ข้อกฎหมายและประโยชน์ของรัฐและประชาชน ถือเป็นซูปเปอร์ดีล จึงไม่น่าจะล่าช้า เพราะเป็นการดำเนินการให้ถูกต้องตามขั้นตอนกฎหมาย ซึ่งก่อนหน้านี้ ครม.ได้มีมติมอบอำนาจให้นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และกระทรวงคมนาคมดำเนินการ ก็อยู่ที่อัยการสูงสุดจะพิจารณาร่างสัญญาอย่างไร