ครม.เคาะลดภาษีน้ำมันดีเซลลิตรละ 3 บาท ตั้งแต่เดือน ก.พ.-เม.ย.นี้

ที่ประชุมครม. โดยมีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ได้เห็นชอบมาตรการลดค่าครองชีพและการปรับลดอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ โดยออกเป็นร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการลดอัตรารัษฎากร เพื่อลดภาษีน้ำมันดีเซลไม่เกิน 3 บาท/ลิตร เป็นเวลา 3 เดือน (ก.พ.-เม.ย.)

ซึ่งในปัจจุบันกรมสรรพสามิตจัดเก็บภาษีน้ำมันดีเซลในอัตรา 5.99 บาทต่อลิตร สามารถจัดเก็บรายได้ประมาณเดือนละ 12,000 ล้านบาท หรือปีละ 1.44 แสนล้านบาท จากการใช้น้ำมัน 2,000 ล้านลิตรต่อเดือน หากปรับลดอัตราภาษีเต็มจำนวนอัตราภาษีที่จัดเก็บ ประเมินว่าจะกระทบการจัดเก็บรายได้รัฐปีละ 70,000 ล้านบาท

สาเหตุที่ต้องลดภาษีน้ำมันดีเซล เนื่องจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกยังคงมีแนวโน้มปรับสูงขึ้น จึงได้ประกอบกับข้อมูลหน่วยงานต่าง ๆ หารือกันในขั้นตอนสุดท้าย เพื่อสรุปตัวเลขการปรับลดภาษีน้ำมันดีเซล เพื่อไม่ให้กระทบต่อการจัดเก็บรายได้ของรัฐมากนัก ทั้งนี้ จะมีผลบังคับใช้หลังจากราชกิจจานุเบกษาประกาศ และประเด็นที่กระทรวงการคลังเป็นห่วงไม่ใช่แค่การลดภาษีน้ำมันแล้วกระทบรายได้ของกรมสรรพสามิต แต่ยังห่วงไปถึงการปิดหีบรายได้ของรัฐบาลด้วย เพราะภาษีน้ำมันดีเซลก็ถือเป็นรายได้สำคัญ หากรายได้ส่วนนี้หายไป รัฐบาลจะนำรายได้ส่วนอื่นมาชดเชยได้อย่างไร