คลังปฏิเสธต่อมาตรการ ‘คนละครึ่งเฟส 5’ ชี้รัฐบาลมีงบประมาณจำกัด

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง เปิดเผยว่าได้หารือกับ นายสุพัฒนพงษ์ พันธุ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พลังงาน โดยสั่งการให้กระทรวงการคลัง พิจารณามาตรการชุดใหม่ เพื่อช่วยเหลือ และบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 และจากปัญหาราคาพลังงานเพิ่มขึ้นสูงในขณะนี้ โดยให้ได้ข้อสรุปภายในเดือน มิ.ย.นี้

ทั้งนี้ มาตรการชุดใหม่จะเน้นความช่วยเหลือเฉพาะกลุ่ม 2 เรื่อง คือได้รับผลกระทบจากโควิด-19 และจากราคาพลังงานที่เพิ่มสูงขึ้น ไม่ใช่มาตรการแบบเหวี่ยงแห เป็นมาตรการเฉพาะกลุ่ม “การใช้มาตรการแบบเหวี่ยงแหในขณะที่สถานการณ์รุนแรงนั้น มีเหตุผลเพียงพอที่จะนำเงินกู้ 1.5 ล้านล้านบาทมาใช้เพื่อเยียวยาผลกระทบให้ประชาชน ด้วยการเพิ่มกำลังซื้อ ในช่วงโควิดทุกคนไม่ปฏิเสธ แต่เมื่อเศรษฐกิจเริ่มดีขึ้น กำลังซื้อเริ่มกลับเข้ามา ความจำเป็นตรงนี้ก็ต้องน้อยลงไป เมื่อเศรษฐกิจกลับมาทำงานได้ปกติ ก็ควรจะถอนเรื่องพวกนี้ ทั่วโลกก็เป็นแบบนี้ ก็จะกลับมาดูเรื่องของรายได้”

โดยได้ยอมรับว่าเงินกู้จาก พ.ร.ก.เงินกู้ ที่เหลืออยู่ราว 4 หมื่นล้านบาท อาจจะไม่เพียงพอ ซึ่งปกติการทำมาตรการที่ผ่านมา จะใช้เงินกู้ในส่วนนี้มากกว่า 5 หมื่นล้านบาท แต่มาตรการรอบใหม่ไม่ได้ระบุว่าจะกู้ รวมทั้งใช้งบกลาง ซึ่งหลังจากนี้มีความจำเป็นต้องเร่งปรับนโยบายการคลังเข้าสู่ภาวะปกติ ต้องพิจารณาหนี้จากการเยียวยาโควิด-19 จะทำให้มีปัญหาด้านรายได้หรือไม่ ถ้าจะให้รัฐกู้เพิ่มคนก็ต้องยอมเข้าระบบภาษีมากขึ้น

สำหรับไทยเมื่อราคาสินค้าปรับสูงขึ้น ขณะเดียวกันก็ขายสินค้าได้มากขึ้นทำให้เศรษฐกิจยังสามารถเติบโตได้ แต่ภาวะเงินฝืดหมายความว่าสินค้าขึ้น เศรษฐกิจหดตัว คนว่างงาน แต่ของไทยเศรษฐกิจกำลังค่อยๆ ฟื้น ซึ่งรัฐบาลก็ไม่ต้องการให้เศรษฐกิจเติบโตแบบก้าวกระโดดแล้วหัวทิ่มลงมาอีก