คลังมั่นใจศก.ไทยปีนี้โตได้สูงถึง 4.5% ท่องเที่ยวส่อต่ำเป้าตั้งเป้าส่งออกทะลุ 10%

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ยังเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจไทยในปี 2565 จะขยายตัวได้ในกรอบที่ตั้งไว้ที่ 3.5–4.5% นอกจากนี้ หากรัฐบาลและภาคเอกชนร่วมมือกันจะทำให้เพิ่มอัตราการเติบโตได้อีก อย่างน้อย 0.1–0.3%
.
หากภาครัฐช่วยลดอุปสรรคของผู้ส่งออก และช่วยเพิ่มความสะดวกในเรื่องของโลจิสติกส์ และสภาพคล่อง ก็จะทำให้การส่งออกทั้งปี 2565 ขยายตัวได้ถึง 10% ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ จึงอยากให้ภาคเอกชนและภาครัฐร่วมมือกันแบ่ง หรือเพิ่มอัตราการเติบโต เพื่อทำให้การส่งออกทั้งปี 2565 โตถึง 10% เพื่อสร้างเซอร์ไพรส์ให้กับนักวิเคระห์จากภาคสถาบันการเงินที่มองว่าส่งออกไทยปีนี้จะเติบโตแค่ 5%
.
ภาคการส่งออกเป็นเครื่องยนต์หลักที่สำคัญ เช่นเดียวกับภาคการท่องเที่ยว ที่ทั้งปีได้ตั้งเป้ามีจำนวนนักท่องเที่ยวเข้าประเทศ 7 ล้านคน แต่ช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทามาไทยเพียง 4 แสนคน ดังนั้น ถ้าตัวเลขอยู่ในระดับนี้ ทั้งปีจะมีชาวต่างชาติเข้าไทย 1.6 ล้านคน ซึ่งต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้
.
นโยบายของรัฐบาลหลังจากนี้เมื่อรัฐบาลผ่อนคลายมาตรการมากขึ้น ก็จะทำให้มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามามากขึ้น แม้หลายประเทศยังคงจำกัดเรื่องของการเดินทาง แต่ขณะนี้ทางฝั่งยุโรปก็ได้ผ่อนปรณในเรื่องของการเดินทางมากขึ้นแล้ว
.
ขณะนี้รัฐบาลได้เร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณ งบลงทุน โดยเฉพาะของรัฐวิสาหกิจเองก็ทำได้ดี เมื่อเทียบกับปี 2564 ส่วนการลงทุนของภาคเอกชน แม้หลายส่วนจะมองว่า ภาคเอกชนจะมีการชะลอการลงทุนเนื่องจากความไม่มั่นใจสถานการณ์สงครามรัสเซีย-ยูเครน แต่ในช่วงปี 2564 ที่ผ่านมา ภาคเอกชนก็ได้มีการระดมทุนเพื่อขยายธุรกิจหรือลงทุนใหม่แล้ว ผ่านการออกหุ้นกู้ เป็นต้น
.
ทั้งนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง มองว่า ภาวะเงินเฟ้อนั้น กระทรวงการคลังและธนาคารแห่งประเทศไทยได้ตั้งเป้าหมายกรอบเงินเฟ้อไว้ที่ 1%–3% ยอมรับว่าเป็นปัจจัยภายนอกที่ควบคุมไม่ได้ อย่างไรก็ตามภาคเอกชนก็ได้มองว่าอัตราเงินเฟ้อของไทยจะไม่สูงมาก และยังไม่ได้รับผลกระทบ ยกเว้นหากราคาน้ำมันดิบดูไบมีการปรับราคาไปสูงถึง 150 เหรียญสหรัฐฯ ต่อ บาร์เรล ซึ่งยังไม่มีมุมมองว่าจะขึ้นไปถึงระดับนั้นได้
#เศรษฐกิจไทย #การเงิน #การคลัง #เงินเฟ้อ #ท่องเที่ยว #BTimes