คลังลดเป้าเศรษฐกิจไทยปีนี้ลงเหลือ 3.6% ส่งออกไทยปี 66 ส่อแย่หนักจากบวกมาติดลบ

นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง หรือ สศค. เปิดเผยว่า ได้ทบทวนอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ หรือจีดีพีปีนี้ใหม่ ลงมาอยู่ที่ 3.6% จากการคาดการณ์เดิมเมื่อเดือนมกราคม 2566 ว่าจะขยายตัวที่ 3.8%

สาเหตุสำคัญมาจากภาคการส่งออกปี 2566 ที่ก่อนหน้านี้ประเมินว่ามูลค่าการส่งออกสินค้าในรูปเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐลดลงเหลือ -0.5% จากเดิมคาดไว้ที่ 1%

อย่างไรก็ตาม ปัจจัยบวกสำคัญของเศรษฐกิจไทยปี 2566 คือภาคการท่องเที่ยวที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจากภูมิภาคเอเชียและกลุ่มสหภาพยุโรปที่เพิ่มขึ้น คาดการณ์ว่าในปี 2566 จะมีนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศเดินทางเข้ามาในประเทศไทย 29.5 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากคาดการณ์เดิมที่ 27.5 ล้านคน

ขณะที่ด้านรายได้การท่องเที่ยวปี 2566 นั้น คาดว่ามีรายได้จากการท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวต่างชาติ 1.3 ล้านล้านบาท ภาคการบริโภคภาคเอกชนอาจจะขยายตัวที่ 4.1% ซึ่งเป็นผลจากประชาชนที่ฟื้นตัวตามสถานการณ์เศรษฐกิจภายในประเทศ สอดรับกับอัตราเงินเฟ้อที่ลดลงต่อเนื่อง

ด้านาอัตราเงินเฟ้อทั่วไปนั้น คาดการณ์ว่าจะอยู่ที่ 2.6% ปรับเข้าสู่กรอบเป้าหมายเงินเฟ้อที่ 1.0%-3.0% สาเหตุจากราคาพลังงานโลกที่ลดลง ทำให้แรงกดดันด้านอุปทานจากต้นทุนพลังงานและราคาน้ำมันคลี่คลายลง

นายพรชัย ฐีระเวช ผอ.สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กล่าวต่อไปว่า ปัจจัยที่จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด ได้แก่ ภาคการท่องเที่ยวที่ปรับตัวดีขึ้น สะท้อนจากจำนวนนักท่องเที่ยวทุกสัญชาติที่มีจำนวนมากกว่าที่คาดการณ์

สถานการณ์เงินเฟ้อที่ลดลงเร็วกว่าที่คาดไว้ ส่งผลบวกต่อการจับจ่ายใช้สอยภายในประเทศเพิ่มมากขึ้น

ปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ เช่น ความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก ความผันผวนของตลาดการเงินโลกจากการดำเนินนโยบายการเงินที่เข้มงวดของประเทศคู่ค้าหลักและปัญหาสถาบันการเงินในต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศสหรัฐอเมริกาและสหภาพยุโรป และความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์โลกในภูมิภาคต่างๆ ซึ่งอาจส่งผลต่อความมั่นคงระหว่างประเทศและปัจจัยการผลิตต่างๆ