คลังเตือนพนักงานรัฐวิสาหกิจหากได้รับเงินเยียวยา ให้รีบนำมาคืนเพราะไม่เข้าข่ายได้รับเงิน 5,000 บาท

1702
0
Share:

นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กล่าวว่า ในวันที่ 25 เม.ย.2563 เวลาประมาณ 09.00 น. เว็บไซด์ www.เราไม่ทิ้งกัน. com จะมีปุ่มเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งปุ่ม คือ “ขอสละสิทธิ์มาตรการเยียวยา” ซึ่งจะเป็นแถบสีชมพู เพื่อให้ผู้ที่ลงทะเบียนทบทวนสิทธิ์ที่ผ่านมา ได้มีโอกาสขอสละสิทธิ์จากมาตรการเยียวยาดังกล่าว
.
เพราะพบว่าที่ผ่านมามีผู้ที่ได้เงินเยียวยา และเกิดเสียชีวิต และทายาทมีการติดต่อเข้ามาเพื่อขอคืนเงินดังกล่าว ก็สามารถมาใช้ปุ่มขอสละสิทธิ์มาตรการเยียวยาได้ โดยเข้าไปกรอกรายละเอียด ซึ่งจะมีขั้นตอนการคืนเงินที่ได้รับไปแล้วด้วย ซึ่งถือเป็นเรื่องที่น่าชื่นชมอย่างมาก
.
นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มพนักงานรัฐวิสาหกิจอีกจำนวนหนึ่ง ที่มาลงทะเบียนและได้รับเงิน 5,000 บาทไปแล้ว ภายหลังการตรวจสอบพบว่าขาดคุณสมบัติที่จะได้รับเงินเยียวยาดังกล่าว จึงต้องคืนเงินผ่านปุ่มขอสละสิทธิ์มาตรการเยียวยาเช่นเดียวกัน โดยเดิมกลุ่มดังกล่าวเป็นกลุ่มที่กระทรวงการคลังจะต้องทำการตรวจสอบอยู่แล้ว แต่ขณะนี้ได้ทำการชี้แจงรายละเอียดกับรัฐวิสาหกิจทุกแห่งแล้วว่าหากใครได้รับสิทธิ์ตามมาตรการให้มาทำการสละสิทธิ์
.
หลังจากนี้กระทรวงการคลังจะทำการตรวจสอบกลุ่มที่ได้รับเงินเยียวยาไปแล้วอีกจำนวนหลายแสนคน ซึ่งคาดว่าน่าจะขาดคุณสมบัติการรับเงินเยียวยาเช่นกัน โดยกลุ่มดังกล่าวต้องคืนเงินให้กับกระทรวงการคลัง ผ่านปุ่มขอสละสิทธิ์มาตรการเยียวยาด้วยเช่นกัน
.
นอกจากนี้ เว็บไซด์ www.เราไม่ทิ้งกัน.com ในปุ่มยกเลิกการลงทะเบียน ได้มีการเพิ่มฟังก์ชัน ให้สำหรับผู้ที่รอฟังผลการลงทะเบียน หลังจากที่ยื่นทบทวนสิทธิ์ที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบ ให้มากดปุ่มดังกล่าวเพื่อยกเลิกการลงทะเบียนได้ เนื่องจากทีมพิทักษ์สิทธิ์ จำนวน 1.7 หมื่นคน ได้มีการลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงสำหรับคนที่ขอยื่นทบทวนสิทธิ์ ซึ่งปรากฏว่ามีทั้งผู้ที่ให้ข้อมูลตรงกับความเป็นจริง และมีคนที่ให้ข้อมูลไม่ตรงกับความเป็นจริง จึงไม่อยากให้ข้อมูลเพิ่มเติมแล้ว และต้องการยกเลิกสิทธิ์จากมาตรการเราไม่ทิ้งกัน ซึ่งที่ผ่านมาไม่สามารถทำได้ กระทรวงการคลังจึงต้องเพิ่มปุ่มดังกล่าวขึ้นมา
.
โดยในวันนี้ได้ดำเนินการจ่ายเงินเยียวยาให้กับผู้ได้รับสิทธิ์อีก 7 แสนคน รวมกับของเดิมที่จ่ายไปแล้ว 4.2 ล้านคน เป็น 4.9 ล้านคน โดยที่ผ่านมากระทรวงการคลังจ่ายเงินได้เฉลี่ย 2-3 แสนคน แต่ตั้งแต่สัปดาห์หน้าจะจ่ายเงินได้รวดเร็วมากขึ้น เฉลี่ยวันละ 7 แสนคน โดยตั้งแต่วันที่ 27-28 เม.ย. นี้ จะสามารถจ่ายเงินให้กับผู้ที่ได้สิทธิ์ทั้งสิ้น 1.5 ล้านคน