คลินิกศิริราชชี้ไม่แนะนำให้ฉีดวัคซีนแอสตร้าฯ 3 เข็มต่อเนื่อง

ศูนย์วิจัยคลินิกศิริราช เผยผลทดสอบประสิทธิภาพของวัคซีน ต่อการตอบสนองทางภูมิคุ้มกันชนิด PVNT50 ต่อสายพันธุ์โอมิครอน

สำหรับผู้ที่ฉีดวัคซีนซิโนแวค 2 เข็ม มาแล้ว 12 สัปดาห์ เมื่อกระตุ้นเข็มที่ 3 ด้วยวัคซีนแอสตราเซนเนกา จะได้ภูมิคุ้มกันต่อโอมิครอน=170 หากกระตุ้นเข็ม 3 ด้วยวัคซีนไฟเซอร์ครึ่งโดส จะได้ภูมิคุ้มกันต่อโอมิครอน = 551 และหากกระตุ้นด้วยวัคซีนไฟเซอร์เต็มโดส จะได้ภูมิคุ้มกันต่อโอมิครอน = 543

สำหรับผู้ที่ฉีดแอสตราเซนเนกา 2 เข็ม มาแล้ว 12 สัปดาห์ เมื่อกระตุ้นเข็มที่ 3 ด้วยวัคซีนแอสตราฯ จะได้ภูมิคุ้มกันต่อโอมิครอน = 3 หากกระตุ้นเข็ม 3 ด้วยวัคซีนไฟเซอร์ครึ่งโดส จะได้ภูมิคุ้มกันต่อโอมิครอน = 232 หากกระตุ้นเข็ม 3 ด้วยวัคซีนไฟเซอร์เต็มโดส จะได้ภูมิคุ้มกันต่อโอมิครอน = 521

ขณะที่ผลการทดสอบในผู้ที่ได้รับวัคซีนสูตรไขว้ โดยผู้ที่ฉีดซิโนแวคเข็มแรก และฉีดแอสตราฯ เข็มที่ 2 มาแล้ว 12 สัปดาห์ เมื่อกระตุ้นเข็มที่ 3 ด้วย วัคซีนไฟเซอร์ครึ่งโดส จะได้ภูมิคุ้มกันต่อโอมิครอน = 204 เมื่อกระตุ้นด้วยวัคซีนไฟเซอร์เต็มโดส จะได้ภูมิคุ้มกันต่อโอมิครอน = 150

ทั้งนี้ ศูนย์วิจัยคลินิกศิริราช สรุปผลทดสอบว่า หลังฉีดวัคซีน 2 เข็ม ไม่ว่าจะเป็นชนิดใดก็ตาม ควรกระตุ้นวัคซีนเข็มที่ 3 เพื่อให้ภูมิคุ้มกันสูงขึ้น สำหรับป้องกันสายพันธุ์โอมิครอน กระตุ้นด้วยวัคซีนไฟเซอร์เป็นเข็มที่ 3 ทั้งครึ่งโดสและเต็มโดส ให้ระดับภูมิคุ้มกันได้ดีต่อสายพันธุ์โอมิครอน หากได้แอสตราฯ มาแล้ว 2 เข็ม ควรกระตุ้นเข็มที่ 3 ด้วยไฟเซอร์เท่านั้น