คอนโดไตรมาสแรกเปิดตัวทรุด กำลังซื้อตกต่ำ คอนโดกรุงเทพใช้ 2 ปีกว่าถึงขายออก

438
0
Share:
คอนโด อสังหาริมทรัพย์ ไตรมาสแรกเปิดตัวทรุด กำลังซื้อตกต่ำ คอนโดกรุงเทพใช้ 2 ปีกว่าถึงขายออก

นายวิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคารอาคารสงเคราะห์ และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ หรือ REIC เปิดเผยว่า ตลาดอาคารชุด หรือคอนโดมิเนียมในภาพรวมไตรมาสแรกปีนี้ มีการเสนอขาย 79,503 หน่วย ลดลง 4.3% มูลค่า 309,579 ล้านบาท ลดลง 9.5% ในจำนวนนี้เป็นการเปิดตัวใหม่ 12,981 หน่วย หรือ 16.33% ลดลง 31.1% มูลค่า 30,773 ล้านบาท หรือ 9.94% ลดลง 34.7% ขณะที่มียอดขายใหม่ 9,710 หน่วย ลดลง 48.9% มูลค่า 36,169 ล้านบาท ลดลง 45.2% มีอัตราการดูดซับทรงตัวอยู่ในระดับ 4.1% ต่อเดือน หรือจะขายหมดในเวลา 21 เดือน

สำหรับโซนมียอดขายสูงสุดและมีอัตราการดูดซับสูง ได้แก่ พื้นที่คลองหลวง-หนองเสือ ยอดขาย 1,628 หน่วย มูลค่า 3,550 ล้านบาท พื้นที่พระโขนง-บางนา-สวนหลวง-ประเวศ ยอดขาย 799 หน่วย มูลค่า 2,539 ล้านบาท พื้นที่เมืองสมุทรปราการ-พระประแดง-พระสมุทรเจดีย์ ยอดขาย 775 หน่วย มูลค่า 2,010 ล้านบาท พื้นที่เมืองนนทบุรี-ปากเกร็ด ยอดขาย 758 หน่วย มูลค่า 1,468 ล้านบาท และพื้นที่ห้วยขวาง-จตุจักร-ดินแดง มียอดขายเป็นอันดับ 5 จำนวน 689 หน่วย มูลค่า 2,674 ล้านบาท

สำหรับทำเลที่มีหน่วยเหลือขายมากและต้องระมัดระวัง ได้แก่ พื้นที่ธนบุรี-คลองสาน-บางกอกน้อย-บางกอกใหญ่-บางพลัด เหลือขาย 8,544 หน่วย มูลค่า 27,045 ล้านบาท พื้นที่ห้วยขวาง-จตุจักร-ดินแดง เหลือขาย 7,951 หน่วย มูลค่า 31,786 ล้านบาท พื้นที่เมืองนนทบุรี-ปากเกร็ด เหลือขาย 6,432 หน่วย มูลค่า 14,774 ล้านบาท พื้นที่พระโขนง-บางนา-สวนหลวง-ประเวศ เหลือขาย 6,204 หน่วย มูลค่า 18,007 ล้านบาท และพื้นที่สุขุมวิท เหลือขาย 5,348 หน่วย มูลค่า 47,222 ล้านบาท

ในส่วนอาคารชุดจังหวัดที่มียอดขายสูงสุดคือกรุงเทพฯ 5,221 หน่วย มูลค่า 24,686 ล้านบาท คิดเป็นยอดขายกว่า 60% ของการขายห้องชุดในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล รองลงมาปทุมธานี 2,205 หน่วย มูลค่า 4,664 ล้านบาท แต่หน่วยเหลือขายมากสุด กรุงเทพฯ 47,225 หน่วย มูลค่า 225,596 ล้านบาท ต้องใช้เวลา 27 เดือนถึงจะขายได้หมด

ทั้งนี้ จากข้อมูลทั้งหมดสะท้อนว่า ตลาดอาคารชุดของกรุงเทพฯ ยังคงมีการแบกอุปทานที่หนักอยู่ หากต้องการลงทุนอาจต้องพิจารณาถึงอุปทานในแต่ละระดับของราคาและรูปแบบของแต่ละทำเลอย่างละเอียดเพิ่มขึ้น รวมถึงผู้ประกอบการเองคงต้องดูทิศทางทางการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ และผลกระทบจากปัจจัยลบของภาคอสังหาฯอย่างใกล้ชิดอีกด้วย