คาราบาว กรุ๊ป ยันยังไม่ปรับขึ้นราคาเครื่องดื่ม “คาราบาวแดง” ยืน 10 บาทนานที่สุด

นายเสถียร เสถียรธรรมะ ประธานกรรมการบริษัท คาราบาว กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ที่ผ่านมา คาราบาว กรุ๊ป ยังทยอยเดินหน้าขยายอาณาจักรอย่างต่อเนื่อง มีทั้งบริษัท ตะวันแดง ดีซีเอ็ม บริษัทจัดจำหน่ายสินค้า (2555) บริษัท เอพีจี บริษัทผลิตและจำหน่ายขวดแก้ว (2555) ศูนย์กระจายสินค้าและหน่วยรถเงินสด (2558) บริษัท เอซีเอ็ม บริษัทผลิตกระป๋องอะลูมิเนียม บริษัท เอพีเอ็ม บริษัทผลิตและจัดหาหีบห่อและบรรจุภัณฑ์ (2563)

โดยตลาดเครื่องดื่มชูกำลังในประเทศ มองว่ายังเป็นตลาดที่มีการแข่งขันที่รุนแรง ท่ามกลางปัญหาต้นทุนต่างๆ ที่เพิ่มขึ้น หลังจากช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ตลาดติดลบต่อเนื่อง แต่ก็หวังว่าปี 2566 นี้จะไม่ติดลบ เพราะสถานการณ์เศรษฐกิจโดยรวมตอนนี้ดีขึ้น การท่องเที่ยวกลับมา การจ้างงานมีมากขึ้น โดยล่าสุดต้นทุนเกือบทุกตัวเพิ่มขึ้น ทั้งพลังงาน ค่าขนส่ง วัตถุดิบทุกตัว อย่างเช่น น้ำตาล ที่ปีนี้แพงกว่าปีก่อนๆ มาก วัตถุดิบต่างๆ ที่ต้องนำเข้า ยิ่งเจอสงครามรัสเซีย-ยูเครนด้วย ทุกอย่างแพงขึ้น เรากำลังดูว่า หากยังยืนราคาเดิมอยู่ แล้วมาร์เก็ตแชร์จะเพิ่มขึ้นได้หรือไม่ แต่ถ้าเมื่อเดินไปถึงจุดหนึ่งและยืนราคาไม่ได้จริงๆ ก็ต้องปรับขึ้น

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ คาราบาว กรุ๊ป ยังคงราคาจำหน่าย เครื่องดื่มคาราบาวแดงไง้ 10 บาท เท่าเดิม โดยจะขายราคาน้ีให้นานที่สุด เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการลดภาระค่าใช้จ่ายให้ประชาชน ผู้บริโภคในไทย

ส่วนตลาดต่างประเทศนั้น ที่ผ่านมารายได้หลักๆ มาจากกัมพูชา เมียนมา เวียดนาม ซึ่งช่วงโควิด-19 ยอดขายจากประเทศเหล่านี้ก็ลดลงเหมือนกัน แต่โครงสร้างรายได้ของบริษัทจากต่างประเทศค่อนข้างดี โดยเฉพาะกัมพูชาที่เป็นตลาดใหญ่ ขณะที่เวียดนาม บริษัทกำลังเข้าไปทำตลาดมากขึ้น และมองว่าเวียดนามคือน่านน้ำใหม่ที่จะทำให้บริษัทเติบโต

สำหรับเมียนมา การปฏิวัติทำให้ตลาดมีความผันผวนมาก ทั้งการนำเข้าส่งออก อัตราแลกเปลี่ยน ฯลฯ ตอนนี้จึงมีความคิดว่า จะต้องเข้าไปสร้างฐานการผลิตในเมียนมา เพื่อเป็นการแก้ปัญหาการนำเข้าที่มีข้อจำกัด คิดว่าภายใน 1 ปีก็น่าจะเป็นรูปธรรม

ด้านตลาดในอังกฤษ ยอมรับว่ายังขาดทุนมาอย่างต่อเนื่อง และช่วงโควิด-19 ก็ได้รับผลกระทบค่อนข้างรุนแรง ตอนนี้ยังเหลือคาราวบาว คัพ อีกฤดูกาลหนึ่ง ก็ดูว่ายังจะมีโอกาสแค่ไหน