ค้าขายไทยยังเกินดุลสหรัฐในรอบ 12 เดือน

รายงานมูลค่าดุลการค้าของประเทศไทยกลับสหรัฐอเมริกา ล่าสุด พบว่ายอดมูลค่าการค้าของไทยเกินดุลกับสหรัฐในช่วง 12 เดือน ระหว่างธันวาคม 2561 ถึงเดือนพฤศจิกายน 2562 อยู่ที่ 20,050 ล้านดอลลาร์ หรือราว 611,525 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่ากฎเกณฑ์สำคัญที่กระทรวงการคลัง สหรัฐ กำหนดไว้ที่ 20,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ นอกจากนี้ ประเทศไทยมียอดมูลค่าดุลบัญชีเดินสะพัดเกินกว่า 2% ของจีดีพีไทยมาทุกไตรมาสติดต่อกันนับตั้งแต่สิ้นสุดปี 2557 ถึงปัจจุบัน ดังนั้น จากตัวเลขทั้ง 2 รายการ จึงส่งผลให้กระทรวงการคลังสหรัฐอาจทบทวนสถานะประเทศไทย และประกาศให้ประเทศไทยอยู่ในรายชื่อประเทศเฝ้าระวังค่าเงินไม่เป็นธรรม
.
หากย้อนกลับไปในเดือนพฤษภาคมปีที่แล้ว จะพบว่า ประเทศไทยมีมูลค่าดุลบัญชีเดินสะพัดที่ละเมิดตามกฎเกณฑ์ของสหรัฐ ซึ่งเป็น 1 ใน 3 ข้อที่กำหนดไว้ ในขณะที่ เวียดนาม สิงคโปร์ และมาเลเซีย ถูกประกาศให้อยู่ในบัญชีรายชื่อประเทศเฝ้าระวังค่าเงินไม่เป็นธรรม เนื่องจากทั้ง 3 ประเทศ มีมูลค่าการค้าเกินดุลที่กำหนด และมีมูลค่าดุลบัญชีเดินสะพัดเกินที่กำหนดด้วย
.
ทั้งนี้ การประกาศให้ประเทศคู่ค้าที่ค้าขายกับสหรัฐอเมริกาให้ถูกจัดในบัญชีรายชื่อประเทศเฝ้าระวังค่าเงินไม่เป็นธรรมนั้น ต้องเข้าเกณฑ์ 2 ใน 3 ข้อของกระทรวงการคลังสหรัฐกำหนดไว้ สำหรับกฎเกณฑ์ประกอบด้วย 3 ข้อ ได้แก่ 1. มูลค่าการค้าเกินดุลกับสหรัฐอเมริกาตั้งแต่ 20,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐขึ้นไป 2. มูลค่าดุลบัญชีเดินสะพัดมีตั้งแต่ 2% ของมูลค่าจีดีพีประเทศคู่ค้านั้นๆ 3. มูลค่าการแทรกแซงค่าเงินของประเทศคู่ค้านั้นๆมีต่อเนื่อง คิดเป็น 2% ของมูลค่าจีดีพีของประเทศคู่ค้าภายในเวลา 6 เดือนในรอบ 1 ปี
.