ค้าปลีกเผยแจกเงินดิจิทัล 10,000 เอื้อนายทุนตามฟอร์ม ร้านเล็กจ่อล้ม-เลิก-ตาย

359
0
Share:
ค้าปลีก เผยแจก เงินดิจิทัล 10,000 เอื้อนายทุนตามฟอร์ม ร้านเล็กจ่อล้ม-เลิก-ตาย

นายสมชาย พรรัตนเจริญ นายกสมาคมค้าส่ง-ปลีกไทย กล่าวว่า นโยบายการกระตุ้นการใช้จ่ายด้วยนโยบายแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ตจำนวน 10,000 บาทในรัศมี 4 กิโลเมตรของพรรคเพื่อไทยนั้น วันนี้สินค้าส่วนใหญ่ไม่ได้อยู่ในมือของประชาชนคนค้าขายรายกลางรายบเล็ก แต่จะอยู่ในมือของนายทุนทั้งหมด ดังนั้น ที่ผ่านมาหลายๆ ปี ที่ภาครัฐมีมาตรการออกมา ส่วนใหญ่เงินไหลลงท่อใหญ่ หรือนำไปสู่มือนายทุนทั้งหมด เพราะสินค้าเกือบทุกอย่าง บริการเกือบทุกประเภท มันอยู่ในมือของนายทุนใหญ่ทั้งหมด รวมถึงกติกาการแข่งขันไม่เกิดความสมดุล

ศักยภาพการขายปลีกของรายย่อยลำบาก นายทุนเปิดร้านขาย 24 ชั่วโมง จะเห็นทุนเล็กทุนน้อย ยอดรายรับไม่พอจ่ายค่าเช่าที่ ผู้ประกอบการรายย่อยมีปัญหาทุกที่ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดล้วนมีปัญหาด้านการขาย เพราะประชาชนไม่มีกำลังซื้อพอ รวมถึงราคาสินค้าก็แพง

ทุกวันนี้ ในประเทศไทยมีกลุ่มทุนที่ผลิตของใหญ่ๆ เฉลี่ยแล้ว 20 บริษัท ซึ่งครอบคลุมทั้งหมด เช่น ภัตตาคาร อาหารเพื่อการบริโภค สินค้าสำหรับใช้ทั้งหมด ซึ่งเป็นสถานที่จัดจำหน่ายสินค้า ตั้งแต่ต้นทาง กลางทาง ปลายทาง ดังนั้น จึงเกิดการกินรวบของนายทุนใหญ่ทั้งหมด

นายกสมาคมค้าส่ง-ปลีกไทย กล่าวต่อไปว่า คนจน คือคนที่ได้เงินจากรัฐบาลมาใช้และร่วมกันจ่ายหนี้ เราจ่ายหนี้ไม่พอ อาจจะส่งหนี้ต่อถึงลูกและหลานในอนาคต ประชาชนจะถูกด้อยค่าไปเรื่อยๆ พอรัฐบาลหยุดให้เงินจะเดือดร้อน เพราะไม่มีอาชีพ

นโยบายดังกล่าวเป็นเพียงนโยบายที่อาจช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงแรก แต่ไม่แน่ใจว่า แผลเป็นจากที่แจกเงินในครั้งนี้จะสร้างภาระให้กับประเทศในวันหลังหรือไม่ เนื่องจากโครงการหลายๆ โครงการของภาครัฐบาลในช่วงผ่านมา มีการหว่านเงินเข้าไปในมือของประชาชน โดยไม่ได้สร้างความเข้มแข็งกับประชาชน ซึ่งในความเป็นจริงควรสร้างโอกาสมากกว่านำเงินมาแจกให้กับประชาชน

อยากให้รัฐบาลพิจารณาแจกเงินให้กับประชาชนที่มีความเดือดร้อน และรายการจ่ายเงินจะต้องไม่ทับซ้อนกับประชาชนที่ได้เงินจากรัฐบาลในโครงการประชารัฐที่ได้รับในทุกเดือนอยู่แล้ว ขณะเดียวกัน ประชาชนที่มีสุขภาพดี ภาครัฐจะสนับสนุนอย่างไร เพื่อให้ใช้สภาพการเป็นมนุษย์ประกอบอาชีพเองได้ เช่น รัฐบาลจะช่วยลดภาษี หรือลดแต้มต่ออย่างไรในผู้ประกอบธุรกิจสามารถดำเนินการต่อได้ ถ้ารัฐบาลมีการเก็บภาษีส่วนต่างๆ เพิ่ม ภายใต้สภาพการแข่งขันของอิทธิพลทุนใหญ่ที่ครอบครองประเทศเกือบทั้งหมด ซึ่งรายย่อยจะผลิตสินค้าใหม่ขึ้นมาก็ลำบาก เพราะนายทุนใหญ่ได้ปิดทางคนจนไว้ทั้งหมด