จบรอบขาขึ้น! เอสซีบี ซีไอโอ ประเมินเฟดจะขึ้นดอกเบี้ยอีกแค่ครั้งเดียว กรกฎาคมนี้

311
0
Share:
จบรอบขาขึ้น! SCB CIO ประเมิน เฟด จะขึ้น ดอกเบี้ย อีกแค่ครั้งเดียว กรกฎาคมนี้

ดร.กำพล อดิเรกสมบัติ ผู้อำนวยการอาวุโส และหัวหน้าทีม SCB Chief Investment Office (SCB CIO) ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด(มหาชน) เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) เมื่อวันที่ 13-14 มิ.ย. ที่ผ่านมา มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย Fed Fund Rate ไว้ที่ 5.00-5.25% แต่ยังส่งสัญญาณปรับขึ้นดอกเบี้ยต่อ และไม่ลดดอกเบี้ยในปีนี้ ซึ่งการหยุดขึ้นดอกเบี้ยรอบนี้ตรงกับมุมมองของ SCB CIO และตลาดที่คาดการณ์ไว้

อย่างไรก็ตาม การที่ผลสำรวจความเห็นของผู้แทนเฟดเกี่ยวกับประมาณการการปรับดอกเบี้ย หรือ Fed dot plots ส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยต่ออีก 2 ครั้ง ซึ่งเป็นสิ่งที่เหนือความคาดหมายมุมมองของเราและตลาด โดยในรายละเอียดคณะกรรมการ FOMC 12 ท่าน จาก 18 ท่าน มองว่า จะมีการขึ้นดอกเบี้ยอีกอย่างน้อย 2 ครั้งในปีนี้ (9 ท่าน มองว่าปรับขึ้นอีก 2 ครั้ง; 2 ท่านมอง 3 ครั้ง; 1 ท่านมอง 4 ครั้ง ขณะที่ มี 4 ท่านมองขึ้น 1 ครั้ง และ 2 ท่านมองคงดอกเบี้ย) ทำให้ค่ากลางของ dot plots เพิ่มขึ้นจาก 5.1% ที่ให้ไว้ในการประชุมเดือน มี.ค. เป็น 5.6% หรือเท่ากับส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.50% คือ 2 ครั้ง ครั้งละ 0.25%

ทั้งนี้ SCB CIO มองว่า สาเหตุหลักที่ FOMC ส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยต่อ มาจากปัจจัยดังนี้ 1) เงินเฟ้อพื้นฐานที่ชะลอลงช้า และมีแนวโน้มที่ Core PCE inflation ซึ่งเป็นเงินเฟ้อที่รวมอาหารและพลังงาน จะสูงกว่าประมาณการเดิม โดยเฟด ปรับคาดการณ์ Core PCE inflation ปีนี้ขึ้นจาก 3.6% เป็น 3.9% และ 2) ตลาดแรงงานยังแข็งแกร่ง ส่วนเศรษฐกิจสหรัฐฯ แม้ชะลอลงแต่ชะลอลงช้ากว่าที่คาดไว้ โดยเฟดปรับคาดการณ์อัตราการว่างงานปีนี้ ลดลงจากเดิม 4.5% เป็น 4.1% และปรับคาดการณ์อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) ปีนี้ ขึ้นจากเดิม 0.4% เป็น 1.0% โดยในการแถลงข่าว นายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานคณะผู้ว่าการระบบธนาคารกลางสหรัฐ ( เฟด) กล่าวว่า ผลของการขึ้นดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมาส่งผลให้การลงทุนและภาคอสังหาริมทรัพย์ชะลอลง แต่ผลต่อเงินเฟ้อยังไม่ชัดเจน

สำหรับ การขึ้นดอกเบี้ยระยะข้างหน้าอาจไม่ใช่การขึ้นในทุกการประชุมติดกัน แต่อาจเป็นแบบเว้นได้ เช่นในครั้งนี้ที่มีการหยุดขึ้นเพื่อรอปรับขึ้นต่อ (skip) โดยในการแถลงข่าว ประธานเฟดระบุว่า คณะกรรมการเฟด เกือบทั้งหมด มองว่า เป็นเรื่องเหมาะสมที่จะมีการขึ้นดอกเบี้ยต่อในช่วงที่เหลือของปี แต่ถ้าสถานการณ์เรื่องของการจ้างงาน เงินเฟ้อ และผลจากความตึงเครียดในภาคการเงิน (financial sector stress) เปลี่ยนไป เฟดก็พร้อมที่จะปรับการทำนโยบาย โดยจะพิจารณาเป็นครั้งๆ ไป และเน้นว่าเมื่อดอกเบี้ยเข้าใกล้จุดสูงสุด (terminal rate) การขึ้นดอกเบี้ยจะเป็นไปอย่างช้าๆ

ขณะที่เฟดไม่มีสัญญาณการลดดอกเบี้ยในปีนี้ โดยการลดดอกเบี้ยเป็นเรื่องของปี 2567-2568 เพราะไม่ว่าจะพิจารณาจาก dot plots ล่าสุดที่ไม่มีคณะกรรมการท่านไหนเลยที่ให้ประมาณการเรื่องการลดดอกเบี้ยในปีนี้ รวมถึงในการแถลงข่าวของประธานเฟด มีการพูดว่า ไม่น่าจะมีการลดดอกเบี้ยในปีนี้ ทั้งนี้ ค่ากลางของ dot plots ส่งสัญญาณว่าการลดดอกเบี้ยน่าจะเกิดในปี 2567 โดยลดลง 1 percentage points เป็น 4.6% และในปี 2568 ลดลงอีก 1.2 percentage points ลงเป็น 3.4%

SCB CIO ประเมินว่าช่วงที่เหลือของปีนี้เฟด จะขึ้นดอกเบี้ยอีก 1 ครั้ง โดยจะปรับขึ้น 0.25% ซึ่งน่าจะเกิดขึ้นในการประชุมวันที่ 25-26 ก.ค. นี้ ส่วนการประชุมหลังจากนั้น เราประเมินว่ามีโอกาส 30% ที่เฟดจะขึ้นดอกเบี้ยเพิ่มเติม เนื่องจาก สัญญาณการขึ้นดอกเบี้ยช้าลงของเฟด น่าจะทำให้เฟด เว้นการขึ้นดอกเบี้ยในการประชุม เดือน ก.ย. (วันที่ 19-20 ก.ย.) และเมื่อเข้าสู่การประชุมครั้งถัดไปในเดือน พ.ย. (31 ต.ค.- 1 พ.ย.) ช่วงเวลานั้น อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานของสหรัฐฯ น่าจะชะลอลงอย่างชัดเจน ทั้งในแง่เมื่อเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน และเทียบกับเดือนก่อนหน้า จนทำให้เฟดหยุดขึ้นดอกเบี้ยได้ ดังที่เคยระบุว่าเฟด ไม่จำเป็นที่จะต้องเห็นเงินเฟ้อแตะ 2% ถึงจะหยุดขึ้นดอกเบี้ย

ส่วน ธนาคารกลางยุโรป (ECB) มีมติปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมวันที่ 15 มิ.ย. ที่ผ่านมา พร้อมส่งสัญญาณเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อเพื่อสกัดเงินเฟ้อ โดยในการแถลงข่าว ประธาน ECB ระบุว่า มีความเป็นไปได้สูงมากที่จะปรับขึ้นดอกเบี้ยต่อในเดือน ก.ค. ยกเว้นว่ามุมมองที่มีต่อแนวโน้มในระยะข้างหน้าเปลี่ยนไปอย่างมีนัย ทั้งนี้คาดว่า ECB จะปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.25% ในการประชุมเดือน ก.ค. และเริ่มมีโอกาสสูงขึ้นที่ ECB อาจจะปรับขึ้นดอกเบี้ยต่ออีกในการประชุมเดือน ก.ย.