จีนเจนซีหันซื้อทองคำเก็บ จีนเจนวายขึ้นขาใหญ่ตุนทองคำ หลังเจอ 4 ปัจจัยลบเศรษฐกิจเรื้อรัง

โชว ไต่ ฟุก จิวเวลรี่ กรุ๊ป ธุรกิจเครือข่ายร้านอัญมณี ทองคำ และเครื่องประดับมีค่าชื่อดังในฮ่องกง เปิดเผยรายงานแนวโน้มผู้บริโภคอัญมณีและเครื่องประดับมีค่าประจำปี 2023 พบว่า ผู้บริโภคชาวจีนรุ่นใหม่ในกลุ่มเจนเนอเรชั่นซี (Z) ที่เกิดในช่วงปี 1988-2012 ซึ่งมีอายุระหว่าง 12-26 ปี ซึ่งเผชิญกับปัจจัยลบและความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจสูง ได้แก่ อัตราว่างคนวัยหนุ่มสาวพุ่งสูง ภาวะเงินฝืดต่อเนื่องที่เลวร้ายที่สุดในรอบ 15 ปีในจีนแผ่นดินใหญ่ ตลาดหุ้นจีนที่มีมูลค่าตลาดตกต่ำเสียหายอย่างมากและผันผวนสูงตลอดเวลา รวมถึงอัตราดอกเบี้ยต่ำมาก ได้กลายเป็นกลุ่มผู้บริโภคซื้อทองคำในอันดับต้นๆของประเทศจีนแผ่นดินใหญ่

ทีน่า ฮอง นักศึกษาชั้นปีที่ 1 ซึ่งกำลังเรียนคณะวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ในวิทยาลัยแห่งหนึ่งในเมืองฟูเจียน เปิดเผยว่า เมื่อเดือนมกราคมผ่านมา ได้ซื้อทองคำแท่งขนาดจิ๋วมีลักษณะคล้ายเม็ดถั่ว หรือ Gold Bean เนื่องจากใช้เงินไม่มากซื้อได้โดยมีราคา 600 หยวน หรือ 83 ดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 3,000 บาทต่อกรัม จนถึงขณะนี้ นักศึกษาปี 1 คนนี้มีทองคำเก็บสะสมมากกว่า 2 กรัม และจะซื้อเก็บสะสมต่อไปตราบใดที่มีราคาซื้อได้ถูกกว่าทองคำแท่งที่มีน้ำหนักมากและขนาดใหญ่กว่า ที่สำคัญ ทีน่า ฮอง คนรุ่นเจนซี กล่าวว่า โดยพื้นฐานแล้ว เป็นไปไม่ได้เลยที่จะเสียเงินหรือขาดทุนกับการซื้อทองคำ

สถานการณ์เศรษฐกิจจีนแผ่นดินใหญ่นับตั้งแต่หลังเปิดประเทศผ่านพ้นโรคระบาดโควิด-19 มาถึงปัจจุบันในปี 2024 พบว่า ตลาดหุ้นในจีนแผ่นดินใหญ่ไม่ว่าจะเป็นตลาดหุ้นเสินเจิ้น และตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้ ล้วนตกอยู่ในสภาพที่ตกต่ำเลวร้าย ทำสถิติตลาดหุ้นที่เลวร้ายที่สุดในรอบ 6 ปี หรือตั้งแต่ปี 2018 เป็นต้นมา สาเหตุจากวิกฤตเศรษฐกิจในภาคอสังหาริมทรัพย์ที่เรื้อรังและรุนแรงต่อเนื่อง ขณะที่คนจีนชนชั้นกลางเผชิญรายได้ตกต่ำ และติดหนี้สินเพิ่มสูงอย่างมากจากการเข้าไปลงทุนในการซื้ออสังหาริมทรัพย์ที่เกิดวิกฤตอย่างหนัก ท่ามกลางธนาคารกลางจีนแผ่นดินใหญ่ลดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นลงถีง 4 ครั้งติดต่อกันนับตั้งแต่เดือนธันวาคม 2021 มาถึงปัจจุบัน กลับส่งผลให้ผลตอบแทนจากอัตราดอกเบี้ยลดต่ำลงจนไม่จูงใจชาวจีนเลือกที่จะฝากเงินกับธนาคาร และยังฉุดผลตอบแทนจากการลงทุนในสินทรัพย์คงที่เลวร้ายลง

สื่อโซเชียลมีเดียยักษ์ใหญ่อันดับต้นๆของจีนแผ่นดินใหญ่ เว่ยป๋อ ซึ่งคล้ายกับเอ็กซ์ หรือชื่อเดิมทวิตเตอร์ ได้โพสต์ข้อความว่า ทำไมคนจีนรุ่นใหม่ถึงลงทุนซื้อทองคำ? ปรากฏว่า ได้รับความสนใจอย่างล้นหลามจากชาวเน็ตจีนเข้าไปมากถึง 91 ล้านครั้ง เพื่อแสดงความคิดเห็นอย่างล้นหลาม เช่น การซื้อทองคำ คือการยกความวุ่นวายไปไว้ที่อ่าวหรือทะเล ปัจจุบัน 3 ใน 4 หรือ 75% ของผู้บริโภคที่ซื้อทองคำในจีนล้วนเป็นคนรุ่นเจนวาย(Y) หรือเจนมิลเลนเนียม ที่มีอายุระหว่าง 25-35 ปี และคนจำนวนมากมีความเชื่อว่าการลงทุนในทองคำมีความเสี่ยงต่ำมาก

รัฐบาลจีนแผ่นดินใหญ่ เปิดเผยว่า ยอดขายทองคำ ซิลเวอร์ และอัญมณี รวมกันเพิ่มขึ้นสูงสุดถึง 29.4% ในเดือนธันวาคม 2023 ซึ่งทำสถิติสูงสุดในรอบ 6 ปี หรือตั้งแต่ปี 2018 เป็นต้นมา เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนเดียวกันในปี 2022 สาเหตุจากราคาทองคำโลกในเดือนธันวาคม 2023 พุ่งทะยานทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์สูงเกินกว่าระดับ 2,000 ดอลลาร์สหรัฐเป็นครั้งแรก ทุกวันนี้ ตลาดทองคำกลายเป็นตลาดผู้บริโภคของชาวจีนที่เติบโตอย่างรวดเร็วที่สุดตลาดหนึ่งในประเทศจีน

นิคอส คาวาลิส กรรมการผู้จัดการ เมทัล โฟกัส บริษัทที่ปรึกษาในกรุงลอนดอน อังกฤษ กล่าวว่า คนรุ่นใหม่เลือกที่จะไม่บริโภคสินค้าหรือสิ่งของที่ตอบสนองความสุขหรือความรื่นรมย์ แต่กลับเลือกที่จะซื้อจิวเวลรี่ที่ใช้เงินไม่มากมาย เช่น ทองคำแท่งขนาดเท่ากับเม็ดถั่ว เพื่อการลงทุน หรือเป็นเครื่องประดับชิ้นเล็กๆ อย่างไรก็ตาม หากมองในแง่ซื้อเพื่อการลงทุนในระยะกลางถึงระยะยาวนั้น การซื้อทองคำขนาดเล็กๆอย่างนี้ อาจไม่ให้ความคุ้มค่าในแง่การลงทุน เนื่องจากคิดคำนวนเมื่อเปรียบเทียบกับหน่วยราคาส่งมอบทองคำทันที หรือ Gold Spot จะพบว่า กลับมีราคาสูงกว่า 10-30% ของราคาทองคำส่งมอบทันที ดังนั้น หากจะใช้เงินจำนวนไม่มาก และน้อยที่สุดในการซื้อทองคำเพื่อลงทุน ควรหันไปซื้อหน่วยลงทุนทองคำ หรือสัญญาอีทีเอฟทองคำจะดีกว่า

ทั้งนึ้ ความคึกคักของคนจีนวัยรุ่นเจนซี(Z) ที่หันมาซื้อทองคำแท่งขนาดเล็กๆ เช่น ทองคำเม็ดถั่ว ทำให้แม้แต่ธนาคารขนาดใหญ่ในประเทศจีน เช่น ธนาคารไชน่า เมอร์ชานท์ แบงก์ ยังได้เปิดเสนอซื้อขายทองคำแท่งขนาดเล็ก หรือทองคำเม็ดถั่วตั้งแต่ข่วงไตรมาส 4 ปีผ่านมา