จีนเจอโควิดสายพันธุ์เดลตาระบาดครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่เจอการระบาดครั้งแรกที่อู่ฮั่น

ทางการจีนเผชิญการระบาดของโควิดสายพันธุ์เดลตาครั้งใหญ่ที่สุด นับแต่เริ่มเกิดการระบาดที่อู่ฮั่น ซึ่งขณะนี้สายพันธุ์เดลตาได้ลุกลามไปหลายมณฑล หลังพบคลัสเตอร์ผู้ติดเชื้อในเมืองต้าเหลียนทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ ซึ่งหลายเมืองได้ออกมาตรการกักตัวสำหรับผู้ที่เดินทางจากเมืองต้าเหลียน

โดยตั้งแต่วันที่ 17 ต.ค. จนถึงวันที่ 14 พ.ย. ได้พบผู้ติดเชื้อในประเทศ 1,308 คน ซึ่งเป็นสถิติที่สูงเกินจำนวนผู้ติดเชื้อสายพันธุ์เดลตาตลอดช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมาเกือบ 30 ราย ครั้งนั้นมีผู้ป่วย 1,280 คน และได้มีมณฑล เขตปกครอง และเทศบาลที่ได้รับผลกระทบแล้ว 21 แห่ง ซึ่งทางการจีนได้กังวลและเร่งสกัดการระบาดให้ได้โดยเร็ว เพื่อให้เป็นไปตามนโยบายที่มุ่งควบคุมให้ยอดผู้ติดเชื้อเป็นศูนย์

ซึ่งกว่า 12 มณฑลได้ควบคุมการระบาดได้ภายในไม่กี่สัปดาห์ เนื่องจากมีการบังคับใช้มาตรการที่รวดเร็ว โดยการใช้มาตรการที่เข้มงวด ซึ่งรวมถึงการติดตามผู้สัมผัสเชื้อทุกราย การตรวจหาเชื้อหลายรอบกับผู้ต้องสงสัยในพื้นที่เสี่ยง สั่งปิดสถานบันเทิง รวมทั้งเพิ่มมาตรการป้องกันสำหรับการท่องเที่ยวและบริการขนส่งมวลชน

ทางด้านนายอู่ เหลียงยู่ เจ้าหน้าที่ของคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติจีน ได้แถลงว่า เมืองต้าเหลียน มณฑลเหลียวหนิง เป็นศูนย์กลางการระบาดครั้งใหม่ของสายพันธุ์เดลตา ได้ยังคงถูกปิดล็อกดาวน์อยู่ เนื่องจากยังไม่สามารถควบคุมการแพร่ระบาดของโรคได้ นับตั้งแต่วันที่ 4 พ.ย. เมืองต้าเหลียน พบผู้ติดเชื้อรายใหม่เฉลี่ยวันละ 24 คน ซึ่งมากกว่าทุกเมืองในจีน

ทั้งนี้หลายเมืองที่อยู่ใกล้เมืองต้าเหลียน เช่น เมืองตานตง เมืองอานชาน และเมืองเสิ่นหยาง ได้ออกมาตรการให้ผู้ที่เดินทางมาจากต้าเหลียนจะต้องกักตัวในศูนย์ของทางการเป็นเวลา 14 วัน เมื่อเดินทางมาถึง