จุลพันธ์เผยบอร์ดดิจิทัลวอลเล็ตชุดใหญ่วันนี้ยังไม่เคาะ ลั่นยังไงก็เดินหน้าต่อ ตั้งคณะทำงานรับฟังความคิดเห็น

130
0
Share:
จุลพันธ์เผยบอร์ด ดิจิทัลวอลเล็ต ชุดใหญ่วันนี้ยังไม่เคาะ ลั่นยังไงก็เดินหน้าต่อ ตั้งคณะทำงานรับฟังความคิดเห็น

นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงการประชุมคณะกรรมการนโยบายดิจิทัลวอลเล็ตในเย็นวันนี้ ระบุว่า จะยังไม่มีการลงมติ เป็นการประชุมบอร์ดใหญ่ซึ่งเป็นการนัดหมาย ของนายกรัฐมนตรี โดยวาระที่มีในวันนี้จะนำเอาหนังสือตอบกลับจากกฤษฎีกา และข้อเสนอของ ป.ป.ช. เข้าสู่ที่ประชุม แต่ต้องเรียนว่าข้อเสนอ ป.ป.ช. มาถึงทำเนียบรัฐบาลเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว กระบวนการทางเอกสารของทำเนียบยังไม่ทัน จึงยังไม่ได้เข้าสู่วาระของการประชุมคณะรัฐมนตรีในวันอังคารที่ผ่านมา

โดยกลไกในการส่งหนังสือเข้ามายังคณะกรรมการนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต จึงยังไม่เป็นทางการแต่มีการแถลงเนื้อหาอย่างเป็นทางการจึงจะนำเอาเนื้อหาที่ ป.ป.ช. เสนอเข้าสู่ที่ประชุมในวาระการรับทราบ แต่ด้วยมาตรา 32 ของ พ.ร.บ.ปราบปรามและป้องกันการทุจริต กำหนดว่า ป.ป.ช. ต้องให้ข้อเสนอแนะกับคณะรัฐมนตรี จึงไม่สามารถส่งตรงมาที่คณะกรรมการดิจิทัลวอลเล็ต แต่คณะกรรมการฯคงไม่รอ แต่จะได้มีการหยิบเนื้อหามาถกกันได้เลย

ส่วนการประชุมวันนี้ ในเบื้องต้นจะมีวาระในการพิจารณา เช่น การตั้งคณะอนุกรรมการ ติดตาม การทุจริตการใช้เงินผิดประเภท ซึ่งจะมีโครงสร้างของคณะอนุกรรมการ ที่ชัดเจน รวมถึงวาระที่ 2 ดูการเชื่อมต่อกับทางธนาคารพาณิชย์ และการติดตามตรวจสอบการทุริตซึ่งมีข้อห่วงใยมาจาก ป.ป.ช. ว่านโยบายนี้อาจจะมีการทุจริตได้ซึ่งได้มอบหมายให้ ส่วนงานที่เกี่ยวข้อง ศึกษาและนำกลับมารายงานกับคณะกรรมการนโยบายว่าจะมีความมั่นใจได้อย่างไร หากหน้านโยบายเติมเงิน 10,000 บาท จะไม่มีเรื่องการทุจริตคอรัปชั่น ซึ่งรัฐบาลมีกรอบอยู่แล้ว และวาระการตั้งคณะทำงานขึ้นมา เพื่อรับฟังความคิดเห็นเพิ่มเติม เมื่อมีความคิดเห็นที่มีความหลากหลาย มีความจำเป็นที่จะต้องรับฟังให้ครบถ้วน นำข้อสรุปต่างๆ เสนอต่อคณะกรรมการในครั้งถัดไป โดยยังยืนยันว่าคณะกรรมการยึดกรอบในการพิจารณาด้วยความรอบครอบและโปร่งใส ซึ่งจะมีการเปิดให้มีการพูดคุยกันในประเด็นต่างๆ

ส่วนข้อถกเถียง คำว่าวิกฤตแล้วหรือไม่ นายจุลพันธ์ระบุว่าเศรษฐกิจวิกฤต World Bank หรือ IMF ก็ไม่ได้มีระบุที่ชัดเจน จึงสามารถวิเคราะห์สถานการณ์ได้อย่างมีความหลากหลาย ซึ่งขณะนี้รัฐบาลก็มองว่าเศรษฐกิจอยู่ในจุดที่เปราะบางและวิกฤตดูจากตัวเลขที่มีการแถลงออกมาในช่วง 1-2 เดือนล่าสุดไม่มีทรงมีแต่ทรุด ซึ่งตัวเลขทางเศรษฐกิจประกอบเข้ากับนโยบายของรัฐบาลที่ได้เติมเข้าไปแล้วอย่างเช่นเรื่องของการท่องเที่ยว การลดค่าครองชีพ ขณะนี้รัฐบาลขับเคลื่อนอย่างเต็มกำลัง แต่มีกลไกหลายอย่างเช่นเรื่องของสภาวะ หนี้ครัวในภาคประชาชนที่ยังอยู่ในระดับสูง สถานการณ์อัตราดอกเบี้ย ทำให้ประชาชนไม่มีกำลังในการจับจ่ายใช้สอย

“ตอนนี้ ไม่มีคำว่า ทำหรือไม่ทำ มีแต่คำว่า ทำ แต่จะเมื่อไร ยอมรับว่ามีความแตกต่างทางความคิด จำเป็นต้องทำความเข้าใจให้ครบถ้วน ในประเด็นที่เป็นข้อห่วงใยก็ต้องตอบให้ได้ ซึ่งต้องใช้เวลา จะเดินโดยไม่ระมัดระวังโดยเฉพาะกรอบของกฎหมายคงไม่ได้ ต้องเป็นไปตามกรอบและขั้นตอนยืนยันว่าจะเป็นการใช้ พ.ร.บ. กู้เงิน”