“จุลพันธ์” แจงไม่ใช้แอปเป๋าตังแจกดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เหตุวัตถุประสงค์ไม่ตรงกัน

237
0
Share:
จุลพันธ์ แจงไม่ใช้แอปเป๋าตังแจก เงินดิจิทัล วอลเล็ต 10,000 บาท เหตุวัตถุประสงค์ไม่ตรงกัน

นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กรณีที่รับบาลไม่ใช้แอปพลิเคชัน เป๋าตัง เพื่อใช้สำหรับแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาทนั้น เนื่องจากเพราะวัตถุประสงค์ไม่เหมือน เนื่องจากโครงการดิจิทัล วอลเล็ต เป็นโครงการที่ช่วยเหลือประชาชน เติมเงิน 10,000 บาทเข้าไปในระบบ มีเงื่อนไขในเรื่องของระยะทางและห้ามใช้ในเรื่องของอบายมุข การออม และการใช้หนี้ ซึ่งเงื่อนไขเหล่านี้ จะเป็นกลไกใหม่ของรัฐในการผลักดันเม็ดเงินลงไประบบ ทำให้กำหนดเป้าหมายได้ชัดเจนมากขึ้น ยืนยันว่าเม็ดเงินเหล่านี้จะลงไปกระตุ้นเศรษฐกิจ ทั้งเอสเอ็มอี การท่องเที่ยว จะเป็นประโยชน์ในระยะยาว จะทำให้การใช้เงินของรัฐคุ้มค่าและตรงกับเป้าหมาย

โดยไม่ปฏิเสธว่าแอปที่จัดทำโดยรัฐในอดีตไม่ดี แต่ฟังก์ชันการใช้งานมีความแตกต่าง รวมถึงวัตถุประสงค์ก็มีความแตกต่าง ในเรื่องของการกำหนดเงื่อนไข อย่างน้อยต้องมีบล็อกเชนเพื่อยืนยันว่าข้อมูล เหล่านี้จะอยู่ในพื้นที่ปลอดภัย ยืนยันมีกลไกรองรับความโปร่งใส

ขณะที่โครงการในอดีตบางโครงการข้อมูลเป็นของรัฐ แต่ตัวแอปพลิเคชันไม่ใช่ ดังนั้นกลไกในการพัฒนาต่อยอดมีข้อจำกัด แต่เมื่อมีการดำเนินการมาแล้วดึงเอาฐานข้อมูลของรัฐมาใช้ประโยชน์ได้ทั้งหมด โดยจะไม่มีการลงทะเบียนใหม่ แต่มีความจำเป็นที่จะต้องยืนยันตัวตน แม้ว่าการยืนยันตัวตนจะดูไม่สำคัญ แต่เมื่อดูข้อกฎหมายต้องทำ เพราะเป็นไปตามกฎหมายที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด และเมื่อมีการยืนยันตัวตนแล้ว ก็ให้ยืนยันการใช้สิทธิ์ ซึ่งตรงกับข้อห่วงใยของสังคม จะทำให้สามารถคัดกรองบุคคลที่จะเข้ามาใช้สิทธิ์ได้

นายจุลพันธ์ ยืนยันด้วยว่าโครงการนี้ ไม่มีผลประโยชน์แอบแฝง เป็นโครงการที่โปร่งใส เม็ดเงินทุกบาทมีประชาชนรองรับผ่านบัตรประชาชน จึงไม่มีทางที่เม็ดเงินเหล่านี้จะรั่วไหลไปผ่านกระเป๋าคนอื่น และข้อมูลพื้นที่ รองรับในระบบบล็อกเชนมั่นใจได้มากกว่าระบบอื่น ในการที่จะติดตามตรวจสอบความผิดพลาดหรือการทุจริตใดๆ ขณะเดียวกัน ยังย้ำว่า ขณะนี้ในเรื่องเม็ดเงิน ยังไม่ได้บอกว่าจะมีการกู้มาจากธนาคาร

สำหรับความคืบหน้าการทำระบบซูเปอร์แอปฯ เพื่อใช้ในโครงการดิจิทัล วอลเล็ต นั้นจะให้ธนาคารในกำกับของรัฐเป็นผู้ดำเนินการ ส่วนจะเป็นธนาคารไหน ขึ้นอยู่กับสมาคมธนาคารของรัฐจะไปพูดคุยตกลงกัน ไม่มีการจัดซื้อจัดจ้างหรือให้ภาคเอกชนเข้ามาดำเนินการ โดยค่าใช้จ่ายในการทำแอปฯ ไม่ได้มาก แต่ยังไม่สามารถบอกตัวเลขได้ ต้องรอการหารือกันก่อน