ชาวนาโอดน้ำมันดีเซล 35 บาท/ลิตร ต้นทุนทำนาพุ่งเท่าตัว

นางฉลอง คงเมือง ชาวนาจังหวัดเพชรบูรณ์ เปิดต้นทุนการทำนา หลังราคาน้ำมันพุ่ง 35 บาทต่อลิตร ซึ่งหากเทียบกับปีที่แล้วขึ้นมาถึง 6 บาทต่อลิตร / ทำต้นทุนการทำนาเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วกว่าเท่าตัว เริ่มที่ค่ารถไถ หรือ ค่าตีดิน เพิ่มขึ้นจาก 280 บาท เป็น 350 บาทต่อไร่ หรือ เพิ่มขึ้น 70 บาท / ค่าไถพรวน จาก 350 บาท ขึ้นเป็น 700 บาทต่อไร่ / ค่าฉีดยาฆ่าวัชพืช จากถังละ 250 บาทต่อไร่ เป็น 300 บาทต่อไร่ / ค่ายาฆ่าหญ้า 700 บาทต่อแกลลอน เพิ่มเป็น 1,000 บาทต่อแกลลอน / ค่าปุ๋ยยูเรีย (สูตร 46-0-0) ปีที่แล้ว กระสอบละ 600 บาท ปีนี้เพิ่มขึ้นเป็น 1,500 บาท

สวนทางกับราคาข้าวที่ต่ำเตี้ยติดดิน เช่น ข้าวเปลือกหอมมะลิ ที่วันนี้ราคาเฉลี่ยตันละ 11,000 บาท เมื่อหักค่าความชื้น ราคาจะอยู่ที่ 8-9 พันกว่าบาทเท่านั้น ทำ
ให้วันนี้ชาวนาอยู่ไม่ได้แล้ว วอนให้รัฐบาลเข้ามาดูแลต้นทุนที่เพิ่มขึ้น ทั้งราคาปุ๋ย และราคาน้ำมัน หากคุมไม่ได้ ก็อยากให้ช่วยทำให้ราคาข้าวปรับตัวสูงขึ้น
อย่างน้อยที่ระดับ 15,000 บาทต่อตัน ชาวนาถึงจะอยู่ได้

เช่นเดียวกับชาวนาที่ตำบลหลุมข้าว อำเภอโนนสูง จังหวัดนครราชสีมา บอกราคาน้ำมันดีเซลขึ้นป็น 35 บาทต่อลิตร เจ้าของรถไถ ได้ปรับราคาค่าไถขึ้นอีกไร่ละ 50 บาท เป็นไร่ละ 300 บาท ซึ่งเป็นค่าจ้างรถไถนาที่สูงมาก อีกทั้งค่าจ้างแรงงานก็ขึ้นเป็นวันละ 300 บาท ทำให้วันนี้ต้องลงมือหว่านข้าวกันเอง จึงอยากวิงวอนให้รัฐบาลเร่งช่วยแก้ปัญหาราคาน้ำมันแพงโดยเร่งด่วน