ช้อปปี้ หนุนผู้ประกอบการท้องถิ่นรายใหม่จาก 200 พื้นที่ เจาะตลาดอีคอมเมิร์ซ พร้อมเผยช่วยผู้บริโภคประหยัดเงินประมาณ 58,000 ล้านบาท

177
0
Share:

จากรายงานของ “Shopee Serves: Building Resilience with Technology,” เผยว่านักช้อปในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ประหยัดเงินได้มากถึง 1.7 พันล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 58,000 ล้านบาท) จากการซื้อสินค้าประเภทของใช้จำเป็นและสินค้าอุปโภคบริโภคผ่านแคมเปญโปรโมชั่นประจำเดือนของช้อปปี้ และประหยัดได้มากยิ่งขึ้นเมื่อซื้อของผ่านแคมเปญที่ช้อปปี้จัดทำร่วมกับร้านค้าและแบรนด์ต่าง ๆ ทั้งนักช้อปและธุรกิจต่าง ๆ สามารถเข้าถึงอีคอมเมิร์ซได้ผ่านช้อปปี้ โดยปีที่ผ่านมามีผู้ใช้ใหม่ที่มาจากพื้นที่ต่างจังหวัดที่ยังเข้าถึงบริการได้น้อยเพราะอยู่นอกเมืองหลวงหรือเมืองใหญ่ในสัดส่วนสูงถึง 85% ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีผู้ขายรายใหม่จาก 200 พื้นที่ก้าวเข้าสู่โลกออนไลน์ผ่านช้อปปี้ ที่สำคัญ ช้อปปี้ยังยกระดับกิจกรรมความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมขององค์กร (CSR) ร่วมกับพันธมิตรเพื่อชุมชนที่ให้ความช่วยเหลือและสนับสนุนโดยมีผู้เข้าร่วมกิจกรรมมากถึง 600,000 คนในปี 2565

นายเทอเรนซ์ แพง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของช้อปปี้ กล่าวว่า “ในปีที่ผ่านมา เรายังคงเดินหน้าสนับสนุนชุมชนต่าง ๆ ของเราในขณะที่พวกเขาพยามประคองตัวในสภาพแวดล้อมที่ท้าทายด้วยความมุ่งมั่นและตระหนักถึงต้องการของทั้งผู้ซื้อและผู้ขายช้อปปี้ช่วยให้ผู้ใช้งานประหยัดเงินในชีวิตประจำวัน ในขณะเดียวกันช่วยให้ผู้ขายเข้าถึงโอกาสทางธุรกิจต่างๆทั้งในแง่การเชื่อมต่อและมีส่วนร่วมกับผู้บริโภคที่ยังไม่เคยเข้าถึงแต่อยู่ในระบบนิเวศของเรา เราซาบซึ้งที่ทุกภาคส่วนไว้วางใจเรา รวมทั้งเรายังเดินหน้ามุ่งมั่นที่จะเสริมแกร่งให้ชุมชนของเราอย่างต่อเนื่องตลอดในอีกหนึ่งปีข้างหน้า”

แม้จะเผชิญความท้าทายทางสังคมและเศรษฐกิจ แต่ผู้คนและภาคธุรกิจต่างพบคุณค่าและโอกาสเพิ่มเติมจากโลกออนไลน์โดยมีช้อปปี้เป็นผู้ช่วยสำคัญ ในการสร้างคุณค่าและโอกาสใหม่ ๆ ให้แก่ผู้ใช้งานทุกคนมาโดยตลอด ในส่วนของการสร้างคุณค่าแก่ผู้ใช้งาน ช่วยให้นักช้อปสามารถประหยัดเงินได้มากถึง 1.7 พันล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 58,000 ล้านบาท จากการซื้อของใช้จำเป็นและสินค้าอุปโภคบริโภคผ่านช้อปปี้ในช่วงโปรโมชั่นประจำเดือน รวมถึง “แคมเปญช้อปปี้ ช้อปดีมีคืน” ในประเทศไทย และดีลพิเศษจากแบรนด์ต่าง ๆ ซึ่งช่วยให้นักช้อปรับมือกับค่าครองชีพที่สูงขึ้นได้

นางสาว ชนกานต์ คำนนท์ นักช้อปตัวยงของช้อปปี้ที่ใช้งานแอปฯมาตั้งแต่ปี 2562 กล่าวว่า “ถ้าพูดถึงแอปช้อปปิ้งออนไลน์ ก็จะนึกถึงช้อปปี้เป็นอันดับแรกเพราะเป็นแอปที่มีความสดใส ใช้งานง่ายและเป็นมิตรกับผู้ใช้ ที่สำคัญยังมีดีลเด็ดและสินค้าหลากหลาย เวลาช้อปปี้ปล่อยแคมเปญใหม่ทีไร ก็จะคอยมาดูดีลและโปรโมชั่นที่พิเศษกว่าเดิมจากช้อปปี้ ร้านค้าและแบรนด์พันธมิตร เพื่อประหยัดเงินขึ้นอีก อีกอย่างคือช้อปปี้มีบริการชำระเงินที่สะดวกอย่าง ShopeePay รวมถึงยังมีฟีเจอร์ SpayLater ซึ่งอำนวยความสะดวกด้านการผ่อนชำระได้ดีมาก สำหรับจิน รู้สึกว่าช้อปปี้เหมาะกับผู้ใช้งานหลากหลายประเภทไม่ว่าจะเป็นการช้อปปิ้ง กิน ดื่มและบริการชำระเงิน แถมยังมีความบันเทิงมากมายเพื่อเติมเต็มความสุขให้ผู้ใช้ เรียกได้ว่าผู้ใช้งานสามารถทำทุกอย่างผ่านแอปช้อปปี้เพียงแอปเดียวได้เลย และถ้ามีโอกาส ก็อยากลองผันตัวไปเป็นผู้ประกอบการบนช้อปปี้ด้วยเพราะตัวเองสนใจเรื่องผลิตภัณฑ์ความงามและผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่ทำจากส่วนผสมออร์แกนิค ปัจจุบัน ผู้บริโภคเองก็ให้ความสำคัญต่อการดูแลสุขภาพมากขึ้น ซึ่งเชื่อว่าช้อปปี้สามารถช่วยสนับสนุนให้ผู้ประกอบการเติบโตได้อย่างยั่งยืน”

ขณะเดียวกัน ยังบ่มเพาะโอกาสใหม่แก่ผู้ขาย มุ่งที่ผู้ขายท้องถิ่นหลายล้านรายในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ขับเคลื่อนการเติบโตของตนเองบนโลกออนไลน์โดยมีช้อปปี้เป็นผู้ช่วยสำคัญในการหาลูกค้าใหม่และสานความผูกพันกับลูกค้าที่จงรักภักดี ในประเทศไทย ช้อปปี้ได้เปิดตัว ‘Shopee International Platform (SIP)’ เพื่อช่วยให้ธุรกิจห้างร้านในประเทศไทยมีโอกาสมากขึ้นท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วบนโลกออนไลน์ช้อปปี้

นางสาว สุภิญญา เพิ่มพูนพานิช ผู้ขายบนแพลตฟอร์มช้อปปี้และเจ้าของแบรนด์ Beyond Ordinary Wellbeing กล่าวว่า ช้อปปี้เองมีระบบหลังบ้านที่แข็งแกร่ง ดูแลครบถ้วนทั้งด้านระบบการชำระเงิน ระบบบริการจัดการคลังสินค้า ระบบโลจิสติกส์ในต่างประเทศ การให้บริการลูกค้าและการอำนวยความสะดวกการจัดกิจกรรมการตลาดหรือโปรโมชั่นเพื่อดึงดูดลูกค้าในตลาดต่างแดนเป้าหมาย มั่นใจว่า จะช่วยให้เราเจาะตลาดอาเซียนหรือแม้แต่ตลาดโลกและคว้าโอกาสอีกมากมายได้ในอนาคต

นอกจากนี้ยังคงเน้นเพิ่มความเพลิดเพลินและคุณค่า จากจำนวนนักช้อปออนไลน์บนแพลตฟอร์มช้อปปี้หลายสิบล้านคนเริ่มช้อปครั้งแรกเมื่อปี 2565 โดยกว่า 85%ของนักช้อปหน้าใหม่อาศัยอยู่นอกเมืองหลวงและเมืองใหญ่ซึ่งเป็นพื้นที่เข้าถึงบริการได้จำกัดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ผู้ขายท้องถิ่นจาก 200 แห่งเข้าสู่วงการอีคอมเมิร์ซผ่านช้อปปี้

ตลอดจนเพิ่มการเข้าถึงบริการดิจิทัล โดยจำนวนผู้ใช้งานที่ทำธุรกรรมออนไลน์อื่น ๆ มีเพิ่มมากขึ้น อาทิ การชำระเงินออนไลน์และการสั่งอาหาร มีผู้ใช้งาน 24 ล้านคนทำธุรกรรม ShopeePay เป็นครั้งแรกในปี 2565 สะท้อนว่าในประเทศไทย ผู้บริโภคนอกเมืองหลวงเปิดรับบริการดิจิทัลมากขึ้นอย่างชัดเจน ที่สำคัญ ผู้ใช้งานบริการดิจิทัลยังลองใช้บริการอื่น ๆ อาทิ การสั่งอาหารด้วย โดยในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2565 ยอดสั่งอาหารบน ShopeeFood โดยผู้พำนักอาศัยนอกกรุงเทพ เพิ่มขึ้น 2 เท่า เมื่อเทียบกับครึ่งปีแรก ทั้งนี้ ช้อปปี้ยังคงเดินหน้าตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งาน รวมถึงผู้ที่อาศัยอยู่นอกเมืองใหญ่ ผ่านบริการดิจิทัลที่หลากหลายไม่ว่าจะเป็นบริการชำระเงิน บริการอาหาร หรือบริการอีคอมเมิร์ซ

รวมไปถึง การเป็นแพลตฟอร์มและทรัพยากรของตนเองเพื่อประโยชน์ของชุมชนที่ต้องการความช่วยเหลือ ส่งเสริมผู้มีความสามารถในท้องถิ่นต่อเนื่อง