ซิปเม็กซ์ช็อตกระตุก ก.ล.ต.จ่อแก้ไขกฎคุมเข้มวงการเงินคริปโต นักลงทุนถอยเทรดกว่า 45%

เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต. นางสาวรื่นฤดี สุวรรณมงคล กล่าวว่า ภาวะราคาสินทรัพย์คริปโทเคอร์เรนซีที่ผันผวนรุนแรงทำให้มีความจำเป็นอย่างเร่งด่วนในการปรับปรุงการกำกับตรวจสอบสินทรัพย์ดิจิทัล เป้าหมายที่ ก.ล.ต. เน้น คือการให้ความคุ้มครองนักลงทุนรายย่อย ซึ่งบางรายนำเงินเก็บออมสะสมส่วนใหญ่มาลงทุนในเงินคริปโทเคอร์เรนซี

ปัจจุบัน กฎหมายหรือกฎระเบียบที่ ก.ล.ต. บังคับใช้ในการกำกับดูแลสินทรัพย์คริปโทเคอร์เรนซีมีมาตั้งแต่ปี 2018 หรือกว่า 3 ปีผ่านมา ดังนั้น กฎหมายหรือกฎระเบียบบางอย่าง เช่น คุณสมบัติที่เข้มงวดเพิ่มขึ้นสำหรับการบริหาร และใบอนุญาตของธุรกิจรับฝากสินทรัพย์คริปโทเคอร์เรนซี เป็นต้น

ข้อมูลจาก ก.ล.ต. เปิดเผยว่า มูลค่าการซื้อขายเงินคริปโทเคอร์เรนซีบนแพลตฟอร์มที่ได้รับใบอนุญาตในประเทศไทยเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา พบว่า ตกต่ำลงมาเหลือ 58,000 ล้านบาท หรือกว่า 1,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ทำสถิติต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมกราคม 2021 หรือในรอบ 1 ปี 5 เดือน นอกจากนี้ เดือนมิถุนายน 2565 จำนวนบัญชีซื้อขายปกติลดลงมาเหลือเพียง 305,000 บัญชี จากเดิมที่มีถึง 556,000 บัญชีในเดือนพฤษภาคม ลดลงถึง 251,000 บัญชี หรือลดลง 45%

ทั้งนี้ ตลาดเงินคริปโทเคอร์เรนซีในประเทศไทยเผชิญกับความผันผวนอย่างรุนแรงขึ้นมาทันทีหลังจาก ซิปเม็กซ์ ไทยแลนด์ ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มซื้อขายสินทรัพย์คริปโทเคอร์เรนซีที่ได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการจาก ก.ล.ต. ประกาศยุติบริการถอน ฝาก เทรดเงินคริปโทเคอร์เรนซีชั่วคราว โดยซิปเม็กซ์ ไทยแลนด์ แถลงการณ์ในเฟซบุ๊กชี้แจงว่า ข้อมูลถึงวันที่ 21 กรกฎาคม 2565 ซิปเม็กซ์มีเงินของนักลงทุนฝากไว้กับคู่ค้าในต่างประเทศ โดยฝากกับ Babel ที่ 48 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 1,776 ล้านบาท และฝากกับ Celsius ที่ 5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 185 ล้านบาท รวมทั้ง 2 แห่งเป็นเงินฝาก 53 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 1,961 ล้านบาท (อัตราแลกเปลี่ยน 37)

ขณะนี้ ซิปเม็กซ์ได้หารือกับทาง Babel อย่างต่อเนื่องเพื่อเร่งแก้ไขปัญหาดังกล่าว และบริษัทฯ อยู่ระหว่างการประเมินทางเลือกตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ทั้งสองฝ่ายยังคงมุ่งมั่นที่จะแก้ไขสถานการณ์นี้โดยเร็วที่สุด