ซีอีโอไบออนเทคย้ำรัฐบาลต้องตัดสินใจว่าใครเหมาะจะถูกฉีดเข็มสาม เผยภูมิคุ้มกันลดแต่ป้องกันอาการป่วยรุนแรง

ดร.อูเกอร์ ซาฮิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หรือซีอีโอ บริษัท ไบออนเทค ที่เยอรมนี ซึ่งเป็นผู้ร่วมผลิตวัคซีนป้องกันโรคระบาดโควิด-19 ยี่ห้อไฟเซอร์ เปิดเผยว่า ในเดือนมกราคมที่ผ่านมาพบว่าภูมิคุ้มกันในการต่อต้านโรคระบาดโควิด-19 ลดลงในผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ครบทั้ง 2 โดส สาเหตุจากการแพร่ระบาดของเชื้อสายพันธุ์เดลต้า หรืออินเดีย แต่ถึงแม้ว่าระดับภูมิคุ้มกันโรคระบาดโควิด-19 ในร่างกายจะกำลังลดลงในระยะเวลา 7 เดือนหลังได้รับการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ครบ 2 โดส คนเหล่านั้นยังคงได้รับการป้องกันจากภาวะโรคระบาดโควิด-19 รุนแรง และอาจไม่ต้องรับการฉีดวัคซีนเข็มบูสเตอร์ หรือเข็มที่ 3

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หรือซีอีโอ บริษัท ไบออนเทค เปิดมุมมองดังกล่าวหลังจากมีรายงานจากประเทศอิสราเอลว่า เบื้องต้นพบประชาชนชาวอิสราเอลที่ได้รับการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ในเดือนมกราคมปีนี้ อาจจะติดเชื้อมากถึง 3 เท่าเมื่อเปรียบเทียบกับประชาชนที่ได้รับการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา

ดร.อูเกอร์ ซาฮิน ซีอีโอ บริษัท ไบออนเทค กล่าวต่อไปว่า ในขณะนี้ รัฐบาลมีความจำเป็นจะต้องตัดสินใจว่าจะต้องฉีดวัคซีนป้องกันโรคระบาดโควิด-19 เข็มบูสเตอร์ หรือเข็มที่ 3 เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันในกลุ่มประชาชนใดที่เหมาะสมกับการรับการฉีดเข็มที่ 3 บริษัทไบออนเทคเป็นเพียงผู้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับวัคซีน และรัฐบาลจะต้องแจ้งว่าต้องการอะไร และอย่างไร