ญี่ปุ่นครองที่ 1 ! ต่างชาติลงทุนในไทย 11 เดือน 2566 เฉียดแสนล้าน ญี่ปุ่นแชมป์อันดับหนึ่ง

156
0
Share:

นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า ช่วง 11 เดือนที่ผ่านมาของปี 2566 (มกราคมพฤศจิกายน) มีการอนุญาตให้คนต่างชาติเข้ามาลงทุนประกอบธุรกิจในประเทศไทย ภายใต้พระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.. 2542 จำนวน 612 ราย โดยเป็นการลงทุนผ่านช่องทางการขอรับใบอนุญาตประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว จำนวน 209 ราย และการขอหนังสือรับรองการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว (ผ่านช่องทางการลงทุนตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมการลงทุน หรือได้รับอนุญาตตามกฎหมายว่าด้วยการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และการใช้สิทธิตามสนธิสัญญาหรือความตกลงระหว่างประเทศ) จำนวน 403 ราย เงินลงทุนทั้งสิ้น 98,288 ล้านบาท จ้างงานคนไทย 6,086 คน โดยชาวต่างชาติที่เข้ามาลงทุน 5 อันดับแรก ได้แก่

1.ญี่ปุ่น 129 ราย คิดเป็น 21% ของจำนวนธุรกิจต่างชาติในไทยในช่วง 11 เดือนของปี 2566 มีเงินลงทุน 30,106 ล้านบาท ในธุรกิจ อาทิ ธุรกิจบริการขุดเจาะหลุมปิโตรเลียมภายในบริเวณพื้นที่แปลงสำรวจที่ได้รับสัมปทานในอ่าวไทย ธุรกิจบริการรับจ้างผลิตชิ้นส่วนยานพาหนะ และธุรกิจบริการทางวิศวกรรมและเทคนิค เช่น การวิเคราะห์และประมวลผลข้อมูลการใช้ก๊าซเรือนกระจกในกิจกรรมต่าง ๆ ของธุรกิจ เป็นต้น

2.สิงคโปร์ 95 ราย คิดเป็น 16% ของจำนวนธุรกิจต่างชาติในไทยในช่วง 11 เดือนของปี 2566 มีเงินลงทุน 22,219 ล้านบาท ในธุรกิจ อาทิ ธุรกิจนายหน้าประกันชีวิต/ประกันวินาศภัย ธุรกิจโรงแรม และธุรกิจการให้บริการเงินอิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น

3.สหรัฐอเมริกา 95 ราย คิดเป็น 16% ของจำนวนธุรกิจต่างชาติในไทยในช่วง 11 เดือนของปี 2566 มีเงินลงทุน 4,235 ล้านบาท ในธุรกิจ อาทิ ธุรกิจบริการให้ใช้สิทธิและให้ใช้ช่วงสิทธิซอฟต์แวร์ที่ใช้ในธุรกิจและอุตสาหกรรมทุกประเภท ธุรกิจบริการออกแบบและพัฒนา ติดตั้ง วางระบบเกี่ยวกับโปรแกรมซอฟต์แวร์ (Software) และแอปพลิเคชั่น (Application) ที่ใช้สำหรับการดำเนินธุรกิจและให้บริการด้านการธนาคารและด้านการเงิน และธุรกิจนายหน้าและตัวแทนจัดซื้อ จัดหา และจัดจำหน่ายสินค้าประเภทรถยนต์ไฟฟ้าและรถทุกชนิด เป็นต้น

เมื่อเปรียบเทียบช่วงมกราคมพฤศจิกายน ของปี 2565 พบว่า การอนุญาตให้คนต่างชาติเข้ามาลงทุนประกอบธุรกิจในประเทศไทย เพิ่มขึ้น 82 ราย คิดเป็น 15% (เดือน ม..-.. 66 อนุญาต 612 ราย / เดือน ม..-.. 65 อนุญาต 530 ราย) โดยแม้มูลค่าการลงทุนจะลดลง 14,169 ล้านบาท คิดเป็น 13% (เดือน ม..-.. 66 ลงทุน 98,288 ล้านบาท / เดือน ม..-.. 65 ลงทุน 112,457 ล้านบาท)

แต่มีการจ้างงานคนไทยเพิ่มขึ้น 1,078 ราย คิดเป็น 22% (เดือน ม..-.. 66 จ้างงาน 6,086 คน / เดือน ม..-.. 65 จ้างงาน 5,008 คน) โดยจำนวนนักลงทุนที่เข้ามาสูงสุดยังคงเป็นนักลงทุนญี่ปุ่น เช่นเดียวกับปี 2565

ธุรกิจที่ได้รับอนุญาตเดือนมกราคมพฤศจิกายน 2566 ส่วนใหญ่เป็นธุรกิจที่สอดคล้องกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ นโยบายการส่งเสริมการลงทุนเพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ อาทิ บริการที่เกี่ยวข้องกับการขุดเจาะหลุมปิโตรเลียม บริการออกแบบ จัดซื้อ จัดหา ติดตั้ง ปรับปรุง พัฒนา ทดลองระบบ สำหรับโครงการรถไฟฟ้า บริการก่อสร้าง ติดตั้งและทดสอบระบบ สำหรับโครงการระบบท่อส่งก๊าซธรรมชาติบนบก บริการเกี่ยวกับการพัฒนาซอฟต์แวร์ และการพัฒนาแพลตฟอร์ม บริการเป็นศูนย์กลางธุรกิจระหว่างประเทศ ซึ่งให้บริการแก่กิจการของวิสาหกิจในเครือในต่างประเทศ

สำหรับการลงทุนในพื้นที่ EEC ของนักลงทุนต่างชาติ เดือนมกราคมพฤศจิกายน 2566 มีนักลงทุนต่างชาติสนใจลงทุนในพื้นที่ EEC จำนวน 120 ราย คิดเป็น 20% ของจำนวนนักลงทุนต่างชาติในไทยในช่วง 11 เดือนของปี 2566 ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปี 2565 ในช่วงเวลาเดียวกัน 15%โดยมีมูลค่าการลงทุนในพื้นที่ EEC 19,531 ล้านบาท คิดเป็น 20% ของเงินลงทุนทั้งหมด  เป็นนักลงทุนจากประเทศญี่ปุ่น 43 ราย ลงทุน 6,853 ล้านบาท จีน 28 ราย ลงทุน 3,927 ล้านบาท ฮ่องกง 6 ราย ลงทุน 4,046 ล้านบาท และประเทศอื่น ๆ อีก 43 ราย ลงทุน 4,705 ล้านบาท