ดร.อนันต์ เผยผลวิจัยพบว่าเชื้อไวรัสโควิด-19 ไม่ทำให้ภูมิคุ้มกันบกพร่องเหมือน HIV

370
0
Share:
โควิด

ดร.อนันต์ จงแก้ววัฒนา นักไวรัสวิทยา ผู้อำนวยการกลุ่มวิจัยนวัตกรรมสุขภาพสัตว์และการจัดการ ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (ไบโอเทค) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กระบุว่า งานวิจัยชิ้นหนึ่งที่ตีพิมพ์ออกมาจากทีมวิจัยจากประเทศจีนระบุว่าไวรัส SARS-CoV-2 สามารถติดเข้าสู่เซลล์เม็ดเลือดขาวชนิด T cell ได้ และ เซลล์ที่ติดเชื้อไวรัสจะถูกเหนี่ยวนำให้ทำลายตัวเอง และ ตายไปในที่สุด ซึ่งอาจเป็นกลไกที่อธิบายว่าเหตุใดในผู้ป่วยโควิดอาการหนักหลายรายมีปริมาณของเม็ดเลือดขาวที่ลดลง (Lymphopenia)

งานวิจัยนี้ได้แสดงผลการทดลองที่ค่อนข้างชัดว่า ไวรัสสามารถติดเข้าสู่เซลล์เม็ดเลือดขาวชนิด T cell ได้ โดยเฉพาะเม็ดเลือดขาวที่อยู่สภาวะที่ถูกกระตุ้นพร้อมแบ่งตัว (activated T cell) โดยกลไกการเข้าสู่เซลล์จะแตกต่างจากเซลล์ปกติทั่วไป เพราะไวรัสไม่ได้ใช้โปรตีน ACE2 เป็นโปรตีนตัวรับ แต่ดูเหมือนจะใช้โปรตีนตัวอื่นชื่อว่า LFA-1 แทน ซึ่งงานวิจัยนี้ยังไม่ได้ลงรายละเอียดว่าไวรัสใช้สไปค์จับกับโปรตีนตัวนี้โดยตรง หรือ อาศัยกลไกอื่นที่ไม่ได้ใช้โปรตีนหนามสไปค์โดยตรงหรือไม่

ประเด็นสำคัญที่อาจจะต้องมีความชัดเจนคือความเหมือน และ ความแตกต่างระหว่างไวรัส HIV กับ ไวรัส SARS-CoV-2 คือ จากข้อมูลในการศึกษานี้ไวรัส SARS-CoV-2 สามารถติดเข้าเซลล์ CD4 T cell ได้ทั้งคู่ แต่ความแตกต่างคือ SARS-CoV-2 ติดแล้วทำให้เซลล์ตายค่อนข้างไว และข้อมูลดูเหมือนว่าจะได้ไวรัสตัวใหม่ออกมาจากเซลล์ที่ติดไปน้อยมาก ซึ่งอาจจะเป็นได้ว่า T cell ไม่ใช่โฮสต์ที่เหมาะสมเหมือนเซลล์ในระบบทางเดินหายใจ หรือเซลล์ปอด ที่สามารถได้อนุภาคไวรัสใหม่ออกมาเป็นจำนวนมาก

แต่สำหรับ HIV จะใช้ CD4 T cell เป็นโรงงานหลักสำหรับผลิตไวรัส และ สามารถเพิ่มจำนวนโรงงานนั้นได้ไม่รู้จบ เพราะไวรัสสามารถนำสารพันธุกรรมไปแทรกรวมกับ DNA ของโฮสต์ เมื่อเซลล์แบ่งตัวเพิ่มสารพันธุกรรมของไวรัสที่แทรกรวมอยู่ด้วยนั้นก็ติดไปด้วย กลายเป็นโรงงานสร้างไวรัสไปตลอด ซึ่งแทบจะไม่มีทางนำ HIV ออกจากร่างกายผู้ป่วยได้เลย

เนื่องจาก SARS-CoV-2 ติดแล้ว ทำให้โฮสต์ (T cell) ตาย ไม่แบ่งตัวต่อ และ สาย RNA ของไวรัสไม่ได้ไปแทรกรวมกับ DNA ของเซลล์ ความกังวลที่ SARS-CoV-2 จะก่อให้เกิดภูมิคุ้มกันบกพร่อง (AIDS) เหมือน HIV จึงเป็นไปไม่ได้