ดัชนีดาวโจนส์ถูกเท ปิดทรุด 124 จุด

เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม(ตามเวลาในสหรัฐ) ตลาดหุ้นนิวยอร์ก สหรัฐ ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ ปิดที่ระดับ 2
30,179 จุด -124 จุด หรือ -0.41% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ระดับ 3,709 จุด -13 จุด หรือ -0.35% และดัชนีหุ้นนาสแดค ปิดที่ระดับ 12,755 จุด -9 จุด หรือ -0.07% ในสัปดาห์นี้ ดัชนีหุ้นสำคัญทั้ง 3 แห่ง ปรับขึ้น +0.4%, +1.3% และ +3.1% ตามลำดับ สาเหตุจากยังคงไม่มีความคืบหน้าจากฝ่ายการเมืองสหรัฐในการผลักดันมาตรการฟื้นฟูและเยียวยาเศรษฐกิจสหรัฐชุดใหม่ ด้วยการเสนอมูลค่าแพคเกจเยียวยาที่ 748,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 23.2 ล้านล้านบาท ได้แก่ ประกันแรงงานตกงาน เงินกู้ธุรกิจ SME ความช่วยเหลือด้านการศึกษา เป็นต้น และแพ็คเกจที่ 2 มูลค่า 160,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 4.96 ล้านล้านบาท ซึ่งเกี่ยวกับการช่วยเหลือด้านเงินกู้ให้กับภาคธุรกิจ และภาคราชการ
ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 49.10 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +0.83 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +1.53% ราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 52.26 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +0.84 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +1.48% ทำสถิติราคาน้ำมันดิบสูงสุดในรอบ 9 เดือน หรือนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ และเป็นสัปดาห์ที่ 7 ที่ราคาน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง สาเหตุจากการทยอยฉีดวัคซีนป้องกันโรคระบาดโควิด-19 ของไฟเซอร์ในสหรัฐ สร้างความหวังในการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ รวมถึงมาตรการฟื้นฟูและกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐมูลค่า 900,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ที่กำลังเร่งเจรจาในรัฐสภาสหรัฐ
ราคาทองคำล่วงหน้านิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 1,889.30 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ -9.30 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ -0.1% ในสัปดาห์นี้ ราคาทองคำเพิ่มขึ้น 2.5% และเป็นสัปดาห์ที่ 3 ที่ราคาทองคำเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง แม้จะมีราคาปิดลดลงจากสถิติสูงสุดในรอบ 1 เดือน สาเหตุจากยังไม่มีความคืบหน้าของฝ่ายการเมืองสหรัฐในการผลักดันแพคเกจฟื้นฟูเศรษฐกิจสหรัฐรอบใหม่เป็นมูลค่ากว่า 900,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพลิกแข็งค่าขึ้น