ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ดำดิ่งหนุกกว่า 1,200 จุด น้ำมันดิบโลกปิดหลุด 94 ดอลลาร์

293
0
Share:
ดัชนี หุ้น ดาวโจนส์ ดำดิ่งหนุกกว่า 1,200 จุด น้ำมันดิบโลกปิดหลุด 94 ดอลลาร์

เมื่อวันที่ 13 กันยายน 2565 (ตามเวลาในสหรัฐ) ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดที่ระดับ 31,104 จุด -1,276 จุด หรือ -3.94% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ระดับ 3,932 จุด -177 จุด หรือ -4.32% และดัชนีหุ้นนาสแดค ปิดที่ระดับ 11,633 จุด -632 จุด หรือ -5.16% ทำสถิติเปอร์เซ็นต์ดัชนีหุ้นดำดิ่งหนักสุดใน 1 วัน ที่เลวร้ายที่สุดในรอบ 2 ปี 2 เดือน หรือน้บตั้งแค่มิถุนายน 2020 เป็นต้นมา

สาเหตุจากอัตราเงินเฟ้อทั่วไปเดือนสิงหาคมเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 8.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีที่ผ่านมา และเพิ่มขึ้นอีก 0.1% เมื่อเทียบกับเดือนกรกฎาคม สอดคล้องกับอัตราเงินเฟ้อขั้นพื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมราคาอาหารและพลังงานในเดือนสิงหาคม พบว่า ในแง่รายเดือน เงินเฟ้อขั้นพื้นฐานขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 0.6% ซึ่งไม่เพียงเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากเดือนกรกฎาคมที่ระดับ 0.3% แต่ยังเพิ่มสูงขึ้นเหนือคาดหมายที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 0.3% นอกจากนี้ ในแง่ราย 12 เดือน หรือรายปี พบว่า เงินเฟ้อขั้นพื้นฐานในเดือนสิงหาคมเพิ่มขึ้นมาแตะที่ระดับ 6.3% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันในปีผ่านมา และยังเพิ่มสูงกว่าในเดือนกรกฎาคมที่เคยอยู่ที่ระดับ 5.9%

ขณะที่ ตัวชี้วัดโอกาสปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นของธนาคารกลางสหรัฐ หรือเฟด ที่เรียกว่า ซีเอ็มอี เฟดวอท์ช พบว่า ขณะนี้มีโอกาสเต็ม 100% ที่เฟดจะขึ้นดอกเบี้ยถึง 0.75% จากก่อนหน้านี้ที่มีโอกาส 90% นอกจากนี้ โอกาสขึ้นเป็น 32% ที่เฟดจะขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้นถึง 1.00% ในการประชุมวันที่ 20-21 กันยายนนี้

ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 87.31 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล -0.47 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -0.5% ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2565 มีราคาพุ่งขึ้นสูงสุดที่ 130.50 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ทำสถิติราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ที่สูงสุดนับตั้งแต่กันยายน 2008 หรือในรอบ 13 ปี 5 เดือน

ด้านราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 93.17 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล -0.83 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -0.9% ก่อนหน้านี้ ราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ มีราคาสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2008 หรือในรอบ 13 ปี 7 เดือน โดยเมื่อคืนวันจันทร์ที่ 7 มีนาคม 2565 มีขึ้นมาสูงสุดระหว่างวันที่ระดับ 139.13 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล

สาเหตุจากตัวเลขเงินเฟ้อทั้งทั่วไปและขั้นพื้นฐานในเดือนสิงหาคมของสหรัฐอเมริกาพุ่งสูงกว่าที่คาดอย่างมาก ทำให้แนวโน้มขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้นอย่างรุนแรงของเฟดมีความชัดเจนขึ้นในการประชุมสัปดาห์หน้า ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ ทำให้การบริโภคน้ำมันดิบลดลง

ราคาทองคำล่วงหน้านิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 1,713.70 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ -22.10 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ -1.55% สำหรับเดือนสิงหาคมนั้น ราคาทองคำลดลง -3% แต่ยังทำให้เป็นเดือนที่ 5 ติดต่อกันที่ราคาทองคำตลาดโลกลดลง ทำให้กลายเป็นราคาทองคำรายเดือนที่ตกต่ำยาวนานที่สุดในรอบ 4 ปี หรือนับตั้งแต่ปี 2018

ก่อนหน้านี้ เมื่อเดือนมีนาคม 2565 ราคาทองคำล่วงหน้ามีราคาสูงสุดระหว่างวันขึ้นไปถึง 2,072.50 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ทำสถิติสูงสุดนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2020 หรือในรอบ 18 เดือน

สาเหตุจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพลิกแข็งค่าสูงขึ้น และผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอเมริการะยะ 10 ปี พุ่งสูงขึ้นรับตัวเลขเงินเฟ้อเดือนสิงหาคมในสหรัฐอเมริกาที่พุ่งสูงเกินคาดหมาย