ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ทรุดกว่า 240 จุด

เมื่อวันที่ 18 กันยายน (ตามเวลาในสหรัฐ) ตลาดหุ้นนิวยอร์ก สหรัฐ ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ ปิดที่ระดับ 27,675 จุด -244 จุด หรือ -0.58% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ระดับ 3,319 จุด -37 จุด หรือ -0.84% และดัชนีหุ้นนาสแดค ปิดที่ระดับ 10,793 จุด -116 จุด หรือ -1.07% ในสัปดาห์นี้ ดัชนีหุ้นสำคัญทั้ง 3 แห่ง ลดลง -1%, -0.7% และ -0.6% ตามลำดับ ส่งผลให้ตลาดหุ้นสหรัฐปิดลดลงเป็นสัปดาห์ที่ 3 ติดต่อกัน ทำให้ตลาดหุ้นสหรัฐปิดร่วงลงรายสัปดาห์ที่ยาวนานในรอบกว่า 8 เดือน
.
สาเหตุจากหุ้นกลุ่มไอทียังคงถูกเทขายอย่างหนาตา ในเดือนกันยายนนี้ ราคาหุ้นในกลุ่ม FAANG ได้แก่ เฟสบุ๊ก แอปเปิล อเมซอน เน็ตฟลิกซ์ กูเกิ้ล ร่วงหนักไม่น้อยกว่า 10% โดยเฉพาะราคาหุ้นแอปเปิลดิ่งหนักมากถึง -17.2% ในเดือนนี้ ไม่เพียงเท่านั้น ยังมีราคาหุ้นดิ่งหนักถึง 22.6% จากราคาสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ส่งผลให้มูลค่าบริษัทแอปเปิล อินคอร์ปอเรชั่น เสียหายมากถึง 500,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 16 ล้านล้านบาท ปัจจัยลบต่อมา คือรัฐบาลสหรัฐสั่งปิดกั้นการดาวน์โหลดแอปจีนชื่อดัง 2 แอป ได้แก่ วีแชท และติ๊กตอกในสหรัฐ โดยมีผลทันที และร่างกฎหมายฟื้นฟูเยียวยาเศรษฐกิจสหรัฐยังไม่สามารถตกลงกันได้
.
ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 41.11 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +0.14 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +0.3% ราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 42.75 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล -0.55 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล สาเหตุจากประเทศลิเบียประกาศกลับมาผลิตน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นจากเดิม ท่ามกลางตลาดหุ้นสหรัฐถูกเทขายอย่างรุนแรงตลอดทั้งสัปดาห์นี้
.
ราคาทองคำล่วงหน้านิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 1,962.10 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ +12.20 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ +0.6% สาเหตุจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าต่อเนื่อง และนักลงทุนยังคงไม่มั่นใจมากนักกับธนาคารกลางสหรัฐที่ยังคงยึดแนวคิดใช้มาตรการการเงินต่อเนื่องเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจสหรัฐ โดยเฉพาะวิธีที่จะทำให้เงินเฟ้อเข้าเป้าหมายที่ 2%