ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดกระฉูดกว่า 420 จุด

257
0
Share:

เมื่อวันที่ 12 สิงหาคม 2565 (ตามเวลาในสหรัฐ) ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดที่ระดับ 33,761 จุด +424 จุด หรือ +1.27% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ระดับ 4,280 จุด +72 จุด หรือ +1.73% และดัชนีหุ้นนาสแดค ปิดที่ระดับ 13,047 จุด +267 จุด หรือ +2.09%

ในสัปดาห์นี้ ดัชนีหุ้นสำคัญทั้ง 3 แห่ง ปิดเพิ่มขึ้น +2.92%, +3.25% และ +3.08% ตามลำดับ โดยเฉพาะดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 รายสัปดาห์ ทำสถิติปิดรายสัปดาห์ในแดนบวกต่อเนื่องยาวนานที่สุดในรอบ 8 เดือน หรือนับตั้งแต่พฤศจิกายน 2021 นอกจากนี้ ดัชนีหุ้นนาสแดคปิดในแดนบวกรายสัปดาห์ต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 4 ติดต่อกัน

นอกจากนี้ ดัชนีสำคัญทั้ง 3 แห่งยังพุ่งทะยานขึ้นจากสถิติต่ำสุดในช่วงกลางเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ฟื้นตัวเกือบ +13% เอสแอนด์พี 500 ฟื้นตัว +16.7% และนาสแดคฟื้นตัว +22.6%

สาเหตุจากตัวเลขราคาสินค้าและวัตถุดิบนำเข้าในสหรัฐอเมริกาลดลง 1.4% นับเป็นครั้งแรกในรอบ 7 เดือน หรือนับตั้งแต่เดือนธันวาคม 2021 เป็นต้นมา ตอกย้ำภาวะเงินเฟ้อทั่ว และขั้นพื้นฐานของผู้บริโภคและผู้ผลิตในสหรัฐอเมริกาทรงตัวระหว่างเดือนมิถุนายนถึงกรกฎาคมตามที่ประกาศไปเมื่อวันพุธและพฤหัสบดีที่ผ่านมา ทำให้นักลงทุนมีความมั่นใจว่าอัตราเงินเฟ้อในทุกประเภทของสหรัฐอเมริกาอาจผ่านจุดสูงสุดแล้ว

ตลาดซื้อขายสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า รายงานว่า ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 92.26 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล -2.08 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -2.2% เมื่อวันที่ 4 สิงหาคมที่ผ่านไป มีราคาทำสถิติต่ำสุดในรอบ 6 เดือน หรือนับตั้งแต่วันที่ 3 กุมภาพันธ์ผ่านมา ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2565 มีราคาพุ่งขึ้นสูงสุดที่ 130.50 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ทำสถิติราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ที่สูงสุดนับตั้งแต่กันยายน 2008 หรือในรอบ 13 ปี 5 เดือน

ด้านราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 98.13 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล -1.47 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -1.5% เมื่อวันที่ 4 สิงหาคมผ่านมา มีราคาทำสถิติต่ำสุดในรอบเกือบ 6 เดือน หรือนับตั้งแต่วันที่ 21 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ก่อนหน้านี้ ราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ มีราคาสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2008 หรือในรอบ 13 ปี 7 เดือน โดยเมื่อคืนวันจันทร์ที่ 7 มีนาคม 2565 มีขึ้นมาสูงสุดระหว่างวันที่ระดับ 139.13 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล

ในสัปดาห์นี้ น้ำมันดิบตลาดโลกรายสัปดาห์ทั้ง 2 แห่ง เพิ่มขึ้น 3.7% และ 3.5% ตามลำดับ

สำหรับเดือนกรกฎาคมที่ผ่านไป ราคาน้ำมันดิบทั้ง 2 แห่งรายเดือนร่วงเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน นับเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 1 ปีผ่านมา หรือนับตั้งแต่ปี 2020 ขณะที่สำนักงานรอยเตอร์ส ปรับลดราคาน้ำมันดิบคาดการณ์เฉลี่ยทั้ง 2 แห่งในปี 2022 ลงมาอยู่ที่ 101.28 และ 105.75 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล นับเป็นการปรับลดครั้งแรกในรอบ 3 เดือนผ่านมา หรือตั้งแต่เมษายนที่ผ่านมา

สาเหตุจากปริมาณน้ำมันดิบที่ผลิตจากอ่าวเม็กซิโกในสหรัฐอเมริกา ถูกประเมินว่าจะได้รับผลกระทบในช่วงสั้นๆ ขณะที่ความกังวลในสถานการณ์เศรษฐกิจโลกชะลอตัวในปีนี้ ยังคงเป็นแรงถ่วงให้นักลงทุนเทขายสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า

ราคาทองคำล่วงหน้านิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 1,817 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ +15.20 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +0.54% ก่อนหน้านี้ ราคาทองคำล่วงหน้ามีราคาสูงสุดระหว่างวันขึ้นไปถึง 2,072.50 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ทำสถิติสูงสุดนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2020 หรือในรอบ 18 เดือน ในสัปดาห์นี้ ราคาทองคำล่วงหน้าปรับขึ้นกว่า 1%

สาเหตุจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐกลับอ่อนค่า ด้านผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอเมริการะยะสั้นในคืนผ่านมาลดลง เนื่องจากนักลงทุนประเมินแนวโน้มการปรับขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้นของธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาที่ยังไม่ชัดเจน ถึงแม้ว่าตัวเลขเงินเฟ้อทั่วไป และเงินขั้นพื้นฐานเดือนกรกฎาคมของสหรัฐอเมริกา เพิ่มขึ้นแต่ต่ำกว่าที่ตลาดคาดไว้ และยังลดต่ำลงจากเดือนก่อนหน้านี้ที่ทำสถิติสูงสุดในรอบ 40 ปี