ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดกระฉูดกว่า 520 จุด น้ำมันดิบโลกปิดขึ้นเหนือ 78 ดอลลาร์

153
0
Share:
ดัชนี หุ้น ดาวโจนส์ ปิดกระฉูดกว่า 520 จุด น้ำมันดิบโลกปิดขึ้นเหนือ 78 ดอลลาร์

เมื่อวันที่ 27 เมษายน 2023 (ตามเวลาในสหรัฐ) ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดที่ระดับ 33,826 จุด +524 จุด หรือ +1.57% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ระดับ 4,135 จุด +79 จุด หรือ +1.96% และดัชนีหุ้นนาสแดค ปิดที่ระดับ 12,142 จุด +287 จุด หรือ +2.43% ส่งผลดัชนีหุ้นรายวันดาวโจนส์และเอสแอนด์พี 500 พุ่งขึ้นสูงสุดในรอบ 4 เดือน หรือนับตั้งแต่มกราคม 2023 สอดคล้องกับดัชนีหุ้นรายวันนาสแดคพุ่งขึ้นสูงสุดในรอบ 1 เดือน หรือนับตั้งแต่มีนาคม 2023

สาเหตุจากเมตา อินคอร์ปอเรชั่น บริษัทแม่ของเฟสบุ๊ก สามารถทำผลประกอบการด้านรายได้ในไตรมาสที่ 1 ออกมาอย่างเหนือการคาดหมาย ส่งผลให้ราคาหุ้นเมตา อินคอร์ปอเรชั่น พุ่งขึ้นถึง +13.9% ทำสถิติพุ่งสูงสุดในรอบมากกว่า 1 ปี นอกจากนี้ ราคาหุ้นอเมซอนมีราคาเพิ่มขึ้น 4.6% ทำให้นักลงทุนมั่นใจในการลงทุนหุ้นอย่างคึกคัก

นอกจากนี้ ตลาดยังคงเฝ้าติดตามธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาจะมีการประชุมดอกเบี้ยระยะสั้นอีกภายใน 2 สัปดาห์ข้างหน้า คือวันที่ 2-3 พฤษภาคมนี้

ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 74.76 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +0.46 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล

ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2565 มีราคาพุ่งขึ้นสูงสุดที่ 130.50 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ทำสถิติราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ที่สูงสุดนับตั้งแต่กันยายน 2008 หรือในรอบ 13 ปี 5 เดือน

ด้านราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 78.37 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +0.68 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล

ในปี 2022 ผ่านไปราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ มีราคาสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2008 หรือในรอบ 13 ปี 7 เดือน โดยเมื่อคืนวันจันทร์ที่ 7 มีนาคม 2565 มีขึ้นมาสูงสุดระหว่างวันที่ระดับ 139.13 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล

สาเหตุจากรองนายกรัฐมนตรีรัสเซีย กล่าวว่า กลุ่มโอเปกพลัสมองไม่เห็นความจำเป็นที่จะต้องลดกำลังการผลิตลงอีก ทำให้นักลงทุนหวนกลับเข้าซื้อสัญญาน้ำมันดิบครั้งใหม่

ราคาทองคำส่งมอบทันที หรือ Gold Spot ปิดที่ 1,987.81 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ลดลง -0.08% % ขณะที่ราคาทองคำล่วงหน้า หรือ Gold Future นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ระดับ 1,997.01 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ลดลง -0.06%

ย้อนกลับไปในปี 2022 ผ่านไปเมื่อเดือนมีนาคม พบว่าราคาทองคำล่วงหน้ามีราคาสูงสุดระหว่างวันขึ้นไปถึง 2,072.50 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ทำสถิติสูงสุดนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2020 หรือในรอบ 18 เดือน

สาเหตุจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐกลับแข็งค่าขึ้น รับกับผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอเมริกาอายุ 10 ปี พลิกกลับเพิ่มขึ้นจากที่เคยลดลงในระดับต่ำสุดในรอบเดือน จากมุมมองที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาน่าจะปรับเพิ่มขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้นถึงแม้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาไตรมาสที่ 1 ขยายตัวต่ำกว่าที่คาดไว้

ทั้งนี้ โอกาสการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นของธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา หรือ CME Watch ที่ระดับ 0.25% พบว่ามีโอกาสถึง 88% ในการประชุมวันที่ 2-3 พฤษภาคมนี้ ซึ่งเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ที่ผ่านไปที่มีโอกาสถึง 73%