ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดขึ้นกว่า 30 จุด น้ำมันดิบโลกปิดลงเหลือกว่า 94 ดอลลาร์

เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2565 (ตามเวลาในสหรัฐ) ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดที่ระดับ 29,239 จุด +36 จุด หรือ +0.13% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ระดับ 3,588 จุด -23 จุด หรือ -0.65% และดัชนีหุ้นนาสแดค ปิดที่ระดับ 10,426 จุด -115 จุด หรือ -1.10% ส่งผลให้ดัชนีหุ้นนาสแดคปิดต่ำสุดในรอบ 2 ปี และยังหลุดระดับ 11,000 จุดครั้งใหม่ข้ามสัปดาห์ นอกจากนี้ ส่งผลให้ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 และนาสแดค ปิดร่วงเป็นวันที่ 5 วันทำการติดต่อกัน

สาเหตุจากนักลงทุนรอการประกาศตัวเลขเงินเฟ้อผู้ผลิตเดือนกันยายนที่จะประกาศในคืนวันนี้ ซึ่งคาดว่าเงินเฟ้อผู้ผลิตขั้นพื้นฐานจะเพิ่มขึ้น 0.2% นอกจากนี้ รอการเปิดเผยรายละเอียดบันทึกการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน ธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา ในคืนวันนี้เช่นเดียวกัน นักลงทุนยังคงกังวลกับภาวะเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกามากขึ้น หลังจากประธานเจ้าหน้าที่บริหารธนาคารเจพี มอร์แกน เชส แอนด์ โค นายเจมี ไดมอน กล่าวว่าเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาจะเข้าสู่ภาวะถดถอยแท้จริงในช่วง 6-9 เดือนข้างหน้านี้ นอกจากนี้ ยังมองว่าดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 จะดำดิ่งแรงอีกถึง -20% จากปัจจุบัน ซึ่งขึ้นอยู่กับธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาจะบริหารจัดการภาวะเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาให้ถดถอยอย่างนุ่มนวล หรือรุนแรง

แรงกดดันปรับขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้นของธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาต่อเนื่อง หลังจากตัวเลขการจ้างงานชาวอเมริกันนอกภาคการเกษตรเดือนกันยายนเพิ่มขึ้น 263,000 คน ซึ่งต่ำกว่าที่คาดไว้เล็กน้อยที่ 275,000 คน และเป็นตัวเลขที่เพิ่มขึ้นน้อยสุดในรอบ 17 เดือนผ่านมา อย่างไรก็ตาม อัตราการว่างงานกลับลดต่ำลงมาอยู่ที่ระดับ 3.5% จากเดือนสิงหาคมที่เพิ่มขึ้นไปที่ระดับ 3.7% สะท้อนถึงภาวะแรงงานยังขยายตัวแข็งแกร่ง ซึ่งจะมีผลต่อการตัดสินใจการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน ธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาในวันที่ 1-2 พฤศจิกายนนี้

ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 89.35 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล -1.78 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -2.0% ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2565 มีราคาพุ่งขึ้นสูงสุดที่ 130.50 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ทำสถิติราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ที่สูงสุดนับตั้งแต่กันยายน 2008 หรือในรอบ 13 ปี 5 เดือน

ด้านราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 94.29 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล -1.90 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -2.0% ก่อนหน้านี้ ราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ มีราคาสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2008 หรือในรอบ 13 ปี 7 เดือน โดยเมื่อคืนวันจันทร์ที่ 7 มีนาคม 2565 มีขึ้นมาสูงสุดระหว่างวันที่ระดับ 139.13 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล

สาเหตุจากนักลงทุนกังวลสถานะเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาถดถอยมีความชัดเจนมากขึ้น หลังจากประธานธนาคารโลก และกรรมการผู้จัดการไอเอ็มเอฟ เปิดเผยว่ามีความเสี่ยงเพิ่มมากขึ้นที่จะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย และปัญหาเงินเฟ้อระดับสูงยังคงเป็นปัจจัยลบต่อเนื่อง นอกจากนี้ ทางการจีนแผ่นดินใหญ่สั่งล็อกดาวน์นครเซี่ยงไฮ้ครั้งใหม่หลังพบการระบาดเกิดขึ้นในเมืองดังกล่าว ก่อนหน้านี้ นครเซี่ยงไฮ้ถูกล็อกดาวน์ในครั้งแรกยาวนานถึง 2 เดือน

ราคาทองคำล่วงหน้านิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 1,686.00 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ +10.80 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ +0.6% ก่อนหน้านี้ ย้อนกลับไปเมื่อเดือนมีนาคม 2565 ราคาทองคำล่วงหน้ามีราคาสูงสุดระหว่างวันขึ้นไปถึง 2,072.50 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ทำสถิติสูงสุดนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2020 หรือในรอบ 18 เดือน

สาเหตุจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐย้อนกลับอ่อนค่าลง รวมถึงดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลงหลังจากเมื่อวานนี้พุ่งสูงขึ้นในรอบ 1 สัปดาห์กว่า หรือนับตั้งแต่วันที่ 29 กันยายน นักลงทุนรอการประกาศตัวเลขเงินเฟ้อผู้ผลิตเดือนกันยายนที่จะประกาศในคืนวันนี้ ซึ่งคาดว่าเงินเฟ้อผู้ผลิตขั้นพื้นฐานจะเพิ่มขึ้น 0.2% นอกจากนี้ รอการเปิดเผยรายละเอียดบันทึกการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน ธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา ในคืนวันนี้เช่นเดียวกัน