ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดดำดิ่งลงเหวกว่า 1,000 จุด

286
0
Share:

เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2565 (ตามเวลาในสหรัฐ) ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดที่ระดับ 32,283 จุด -1,008 จุด หรือ -3.03% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ระดับ 4,057 จุด -141 จุด หรือ -3.37% และดัชนีหุ้นนาสแดค ปิดที่ระดับ 12,141 จุด -457 จุด หรือ -3.94% ในสัปดาห์นี้ ดัชนีหุ้นสำคัญทั้ง 3 แห่ง ดำดิ่งหนักถึง -4.2%, -4.0% และ -4.4% ตามลำดับ นอกจากนี้ ดัชนีหุ้นสำคัญทั้ง 3 แห่งรายสัปดาห์ ยังเป็นสัปดาห์ที่ 2 ที่ปิดร่วงลงติดต่อกัน

ขณะที่ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ทำสถิติปิดต่ำสุดในรอบ 1 เดือน หรือนับตั้งแต่วันที่ 27 กรกฎาคมที่ผ่านมา และยังทำให้ผลตอบแทนทั้งเดือนสิงหาคมกลายเป็นศูนย์

สาเหตุจากนักลงทุนเกิดความกังวลอย่างมาก และแห่เทขายหุ้นทุกกลุ่มอย่างหนักทั้งวัน หลังจากประธานธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา นายเจอโรม พาวเวลล์ ที่จะเข้าร่วมประชุมเวทีเศรษฐกิจแจ็คสัน โฮล ยืนยันว่าเฟดยังคงปรับขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้นอย่างต่อเนื่องเพื่อแก้ปัญหาเงินเฟ้อ นอกจากนี้ ยังเตือนว่าเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาจะได้รับความเจ็บปวดจากความจำเป็นในการใช้นโยบายการเงินตึงตัวมากขึ้น นอกจากนี้ ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอเมริการะยะสั้นอายุ 10 ปี พลิกกลับพุ่งสูงขึ้นเหนือกว่า 3% ครั้งใหม่ ส่งผลลบต่อหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยีถูกกระหน่ำเทขายอย่างรุนแรงด้วย

ตลาดซื้อขายสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า รายงานว่า ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 93.06 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +0.54 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล โดยเมื่อคืนวันอังคารในสัปดาห์ผ่านไป (ตามเวลาสหรัฐอเมริกา) มีราคาต่ำสุดระหว่างวันไปแตะที่ 85.73 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ทำสถิติราคาน้ำมันดิบต่ำสุดนับตั้งแต่ 26 มกราคม หรือในรอบ 6 เดือน 3 สัปดาห์ ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2565 มีราคาพุ่งขึ้นสูงสุดที่ 130.50 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ทำสถิติราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ที่สูงสุดนับตั้งแต่กันยายน 2008 หรือในรอบ 13 ปี 5 เดือน

ด้านราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 100.99 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +1.65 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล โดยเมื่อคืนวันอังคารในสัปดาห์ผ่านไป มีราคาต่ำสุดระหว่างวันไปแตะที่ 91.71 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ทำสถิติราคาน้ำมันดิบต่ำสุดนับตั้งแต่ 18 กุมภาพันธ์ หรือในรอบ 6 เดือน ก่อนหน้านี้ ราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ มีราคาสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2008 หรือในรอบ 13 ปี 7 เดือน โดยเมื่อคืนวันจันทร์ที่ 7 มีนาคม 2565 มีขึ้นมาสูงสุดระหว่างวันที่ระดับ 139.13 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล

ในสัปดาห์นี้ ราคาน้ำมันดิบทั้ง 2 แห่ง ปิดทะยานขึ้น +2.5% และ +4.4% ตามลำดับ

ขณะที่สำนักงานรอยเตอร์ส ปรับลดราคาน้ำมันดิบคาดการณ์เฉลี่ยทั้ง 2 แห่งในปี 2022 ลงมาอยู่ที่ 101.28 และ 105.75 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล นับเป็นการปรับลดครั้งแรกในรอบ 3 เดือนผ่านมา หรือตั้งแต่เมษายนที่ผ่านมา

สาเหตุจากประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรต ซึ่งเป็นหนึ่งสมาชิกกลุ่มโอเปกพลัส ยืนยันว่า สนับสนุนการตัดลดกำลังการผลิตของกลุ่มโอเปกพลัสตามที่ซาอุดีอาระเบียเสนอมา

ราคาทองคำล่วงหน้านิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 1,749 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ -21.80 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -1.26% นับเป็นราคาทองคำรายสัปดาห์ที่ปิดลดลงเป็นสัปดาห์ที่ 2 ติดต่อกัน ก่อนหน้านี้ เมื่อเดือนมีนาคม 2565 ราคาทองคำล่วงหน้ามีราคาสูงสุดระหว่างวันขึ้นไปถึง 2,072.50 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ทำสถิติสูงสุดนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2020 หรือในรอบ 18 เดือน

สาเหตุจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพุ่งแข็งค่า ด้านผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอเมริการะยะสั้นอายุ 10 ปี ปรับสูงขึ้นเหนือกว่า 3% เป็นผลจากการแถลงของประธานธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาที่ไวโอมิ่ง ว่า จะยังคงปรับขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้นอย่างต่อเนื่องเพื่อแก้ปัญหาเงินเฟ้อในสหรัฐอเมริกา