ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดดิ่งเหวลึกกว่า 640 จุด

287
0
Share:

เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2565 (ตามเวลาในสหรัฐ) ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดที่ระดับ 33,063 จุด -643 จุด หรือ -1.91% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ระดับ 4,137 จุด -90 จุด หรือ -2.14% และดัชนีหุ้นนาสแดค ปิดที่ระดับ 12,381 จุด -323 จุด หรือ -2.55% ทำให้ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ และเอสแอนด์พี 500 ทำสถิติดัชนีหุ้นตกต่ำเลวร้ายที่สุดในรอบ 2 เดือน 1 สัปดาห์ หรือนับตั้งแต่วันที่ 16 มิถุนายน ส่วนดัชนีหุ้นนาสแดคทำสถิติหุ้นเลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 28 มิถุนายน หรือในรอบเกือบ 2 เดือน

นอกจากนี้ ส่งผลให้ดัชนีหุ้นสำคัญทั้ง 3 แห่ง ดำดิ่งอย่างหนักใน 2 วันทำการติดกัน -935, -145 และ -583 จุด ตามลำดับ ในสัปดาห์ผ่านไป ดัชนีหุ้นสำคัญทั้ง 3 แห่ง ลดลง -0.16%, -1.21% และ -2.62% ตามลำดับ

สาเหตุจากนักลงทุนตกอยู่ในภาวะกังวลอย่างมาก และมีมุมมองกับแรงกดดันขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้นของธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะความเห็นของผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา สาขาเซ็นต์หลุยส์ มองว่าธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาจะต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นในขนาดใกล้เคียงกับช่วงผ่านมา นอกจากนี้ บันทึกการประชุมของคณะกรรมการนโยบายการเงิน ธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา ซึ่งเปิดเผยเมื่อคืนวันพุธในสัปดาห์ที่แล้ว เฟดยังคงมุ่งมั่นที่จะแก้ไขปัญหาเงินเฟ้อในสหรัฐอเมริกา ด้วยการปรับขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้นต่อเนื่อง โดยนักลงทุนมองว่าเฟดส่งสัญญาณว่าอาจทบทวนขนาดการปรับขึ้นดอกเบี้ยดังกล่าว มีความไม่ชัดเจน

ตลาดซื้อขายสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า รายงานว่า ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 90.50 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล -0.27 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -0.3% โดยเมื่อคืนวันอังคารในสัปดาห์ผ่านไป (ตามเวลาสหรัฐอเมริกา) มีราคาต่ำสุดระหว่างวันไปแตะที่ 85.73 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ทำสถิติราคาน้ำมันดิบต่ำสุดนับตั้งแต่ 26 มกราคม หรือในรอบ 6 เดือน 3 สัปดาห์ ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2565 มีราคาพุ่งขึ้นสูงสุดที่ 130.50 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ทำสถิติราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ที่สูงสุดนับตั้งแต่กันยายน 2008 หรือในรอบ 13 ปี 5 เดือน

ด้านราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 96.28 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล -0.44 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -0.5% โดยเมื่อคืนวันอังคารในสัปดาห์ผ่านไป มีราคาต่ำสุดระหว่างวันไปแตะที่ 91.71 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ทำสถิติราคาน้ำมันดิบต่ำสุดนับตั้งแต่ 18 กุมภาพันธ์ หรือในรอบ 6 เดือน ก่อนหน้านี้ ราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ มีราคาสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2008 หรือในรอบ 13 ปี 7 เดือน โดยเมื่อคืนวันจันทร์ที่ 7 มีนาคม 2565 มีขึ้นมาสูงสุดระหว่างวันที่ระดับ 139.13 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล

ขณะที่สำนักงานรอยเตอร์ส ปรับลดราคาน้ำมันดิบคาดการณ์เฉลี่ยทั้ง 2 แห่งในปี 2022 ลงมาอยู่ที่ 101.28 และ 105.75 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล นับเป็นการปรับลดครั้งแรกในรอบ 3 เดือนผ่านมา หรือตั้งแต่เมษายนที่ผ่านมา

สาเหตุจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับแข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำสถิติแข็งค่าสูงสุดในรอบ 5 สัปดาห์ หรือเป็นผลจากแนวโน้มที่ธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาจะปรับขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้นในการประชุมครั้งต่อไปในวันที่ 20-21 กันยายน ซึ่งถูกประเมินว่าอาจปรับขึ้น 0.5% หรือ 0.75% นอกจากนี้ รัฐมนตรีกระทรวงพลังงาน ซาอุดีอาระเบีย กล่าวว่า กลุ่มโอเปกพลัสอาจลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบเพื่อเผชิญกับความท้าทายของภาวะตลาดน้ำมันดิบโลก

ราคาทองคำล่วงหน้านิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 1,747.70 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ -15.20 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -0.86% ก่อนหน้านี้ ราคาทองคำล่วงหน้ามีราคาสูงสุดระหว่างวันขึ้นไปถึง 2,072.50 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ทำสถิติสูงสุดนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2020 หรือในรอบ 18 เดือน ในสัปดาห์นี้ ราคาทองคำล่วงหน้าปรับขึ้นกว่า -2.9% ทำสถิติราคาทองคำรายสัปดาห์ต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 8 กรกฎาคม หรือในรอบ 1 เดือน 1 สัปดาห์ และหยุดสถิติราคาทองคำรายสัปดาห์เพิ่มขึ้น 4 สัปดาห์ติดต่อกัน

สาเหตุจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่ามากขึ้น ด้านผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอเมริการะยะสั้นในคืนผ่านมากลับมาเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากนักลงทุนรอติดตามการแถลงของประธานธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาที่ไวโอมิ่งในวันศุกร์นี้ นอกจากนี้ บันทึกการประชุมธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา ได้ประเมินแนวโน้มการปรับขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้นของธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาที่ต้องปรับขึ้นต่อเนื่อง ถึงแม้ว่าตัวเลขเงินเฟ้อทั่วไป และเงินขั้นพื้นฐานเดือนกรกฎาคมของสหรัฐอเมริกา เพิ่มขึ้นแต่ต่ำกว่าที่ตลาดคาดไว้ และยังลดต่ำลงจากเดือนก่อนหน้านี้ที่ทำสถิติสูงสุดในรอบ 40 ปี