ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดดิ่งหนักเกือบ 290 จุด น้ำมันดิบโลกลงอีกหลุด 69 ดอลลาร์

135
0
Share:
ดัชนี หุ้น ดาวโจนส์ ปิดดิ่งหนักเกือบ 290 จุด น้ำมันดิบโลกลงอีกหลุด 69 ดอลลาร์

เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม 2023 (ตามเวลาในสหรัฐ) ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดที่ระดับ 33,127 จุด -286 จุด หรือ -0.86% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ระดับ 4,061 จุด -29 จุด หรือ -0.72% และดัชนีหุ้นนาสแดค ปิดที่ระดับ 11,966 จุด -58 จุด หรือ -0.49%

ดัชนีหุ้นสำคัญทั้ง 3 แห่งปิดติดลบถึง 3 วันทำการติดต่อกัน ขณะที่ดัชนีหุ้นดาวโจนส์กลับมาติดลบเป็นครั้งแรกตั้งแต่ต้นปีนี้ ในสัปดาห์นี้ ดัชนีสำคัญทั้ง 3 แห่งมีความเป็นไปได้สูงมากที่จะติดลบ -2.8%, -2.6% และ -2.1% ตามลำดับ ทำสถิติดัชนีหุ้นรายสัปดาห์ที่ย่ำแย่ที่สุดในรอบ 2 เดือน หรือตั้งแต่วันที่ 10 มีนาคมผ่านมา

สาเหตุจากนักลงทุนเกิดความกังวล และไม่มีความมั่นใจอย่างมากกับสถานการณ์ธนาคารระดับภูมิภาคอื่นๆ โดยเฉพาะธนาคารแพคเวสท์ในสหรัฐอเมริกาที่กำลังเกิดปัญหาตามมา หลังจากธนาคารเฟิร์สท รีพลับลิก แบงก์ ล่มสลายเป็นธนาคารแห่งที่ 3 ใน 2 เดือนผ่านมาของสหรัฐอเมริกา นักลงทุนกระหน่ำเทขายหุ้นของธนาคารระดับภูมิภาคของสหรัฐอเมริกาแทบทุกแห่งในคืนผ่านมาซึ่งนับเป็นคืนที่ 2 ต่อเนื่อง

สถานการณ์การเมืองในรัฐสภาคองเกรสของสหรัฐอเมริกาที่กำลังตึงเครียดกับการพิจารณากฎหมายขยายการกู้ยืมเงินของรัฐบาลเพื่อหลีกเลี่ยงภาวะรัฐบาลสหรัฐอเมริกาไม่สามารถชำระคืนหนี้สินได้ก่อนถึงวันที่ 1 มิถุนายนนี้

ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 68.66 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล -0.04 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -0.06% โดยมีราคาดำดิ่งต่ำสุดระหว่างวันในคืนผ่านมาที่ระดับ 63.64 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ราคาปิดในคืนผ่านมาทำสถิติราคาปิดต่ำสุดในรอบ 5 สัปดาห์เป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน

ขณะที่เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม ตามเวลาในสหรัฐอเมริกา ยังทำสถิติราคาน้ำมันดิบดำดิ่งในแง่เปอร์เซ็นต์มากที่สุดในรอบ 17 สัปดาห์ หรือตั้งแต่มกราคมปีนี้

ราคาปิดในคืนผ่านมา ส่งผลราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก ร่วง 4 วันทำการ(ตั้งแต่วันศุกร์ที่ 28 เมษายน วันจันทร์ที่ 1-3 พฤษภาคม) ติดต่อกัน 8.22 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล

ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2565 มีราคาพุ่งขึ้นสูงสุดที่ 130.50 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ทำสถิติราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ที่สูงสุดนับตั้งแต่กันยายน 2008 หรือในรอบ 13 ปี 5 เดือน

ด้านราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 72.50 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +0.17 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +0.24 % เมื่อวานนี้ 3 พฤษภาคม มีราคาดำดิ่งต่ำสุดระหว่างวันที่ระดับ 71.70 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ราคาปิดในคืนผ่านมาทำสถิติใกล้เคียงราคาปิดต่ำสุดในรอบ 1 ปี 4 เดือน หรือตั้งแต่ธันวาคม 2021 เป็นต้นมา

ขณะที่เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม ตามเวลาในสหรัฐอเมริกา ยังทำสถิติราคาปิดต่ำสุด 5 สัปดาห์ หรือนับตั้งแต่ 24 มีนาคมผ่านมา แต่ยังเป็นสถิติราคาน้ำมันดิบดำดิ่งในแง่เปอร์เซ็นต์มากที่สุดในรอบ 17 สัปดาห์ หรือตั้งแต่มกราคมปีนี้

ราคาปิดในคืนผ่านมา หยุดสถิติราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ร่วง 3 วันทำการ(ตั้งแต่วันศุกร์ที่ 28 เมษายน วันจันทร์ที่ 1 และวันอังคารที่ 2 พฤษภาคม) ติดต่อกัน 7.21 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล

ในปี 2022 ผ่านไปราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ มีราคาสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2008 หรือในรอบ 13 ปี 7 เดือน โดยเมื่อคืนวันจันทร์ที่ 7 มีนาคม 2565 มีขึ้นมาสูงสุดระหว่างวันที่ระดับ 139.13 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล

สาเหตุจากธนาคารกลางกลุ่มยูโรขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้นเป็นครั้งที่ 3 ติดต่อกัน โดยปรับขึ้นอีก 0.25% ในคืนผ่านมา แม้จะเป็นการขึ้นดอกเบี้ยที่ไม่มากเท่า 2 ครั้งแรก แต่นักลงทุนกังวลกับภาวะเศรษฐกิจกลุ่มยูโรที่มีต้นทุนสูงในรอบหลายสิบปี

นักลงทุนเฝ้าติดตามและประเมินสถานการณ์การเมืองในรัฐสภาคองเกรสของสหรัฐอเมริกาที่กำลังตึงเครียดกับการพิจารณากฎหมายขยายการกู้ยืมเงินของรัฐบาลเพื่อหลีกเลี่ยงภาวะรัฐบาลสหรัฐอเมริกาไม่สามารถชำระคืนหนี้สินได้ก่อนถึงวันที่ 1 มิถุนายนนี้ นอกจากนี้ รัฐมนตรีคลังสหรัฐชี้แจงว่าสหรัฐอเมริกามีเงินงบประมาณสำหรับการใช้จ่ายบริหารประเทศได้เพียงอีก 1 เดือนเท่านั้น

ด้านตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกายังคงแสดงถึงภาวะชะลอตัวต่อเนื่อง หลังจากตัวเลขการเปิดรับสมัครงานตำแหน่งใหม่เดือนมีนาคมผ่านมาตกต่ำเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน และตัวเลขการปลดพนักงานพุ่งสูงในรอบกว่า 2 ปี

ภาวะเศรษฐกิจจีนแผ่นดินใหญ่มีสัญญาณไม่สู้ดี หลังจากตัวเลขกิจกรรมภาคการผลิตอุตสาหกรรมในเดือนเมษายนลดลงอย่างที่ไม่เคยคาดการณ์มาก่อน สะท้อนผลกระทบการบริโภคน้ำมันดิบของจีนแผ่นดินใหญ่ลดต่ำลง

ราคาทองคำส่งมอบทันที หรือ Gold Spot ปิดที่ 2,045.79 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ พุ่งทะยานถึง +29.08 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ +0.03% ทำสถิติราคาปิดสูงสุดตั้งแต่ 14 เมษายน หรือในรอบ 3 สัปดาห์ผ่านมา ที่สำคัญ มีราคาทองคำส่งมอบทันทีในคืนผ่านมาขึ้นไปสูงสุดระหว่างวันที่ระดับ 2,072.19 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ซึ่งเฉียดราคาทองคำสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์ที่ระดับ 2,072.49 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์

ขณะที่ราคาทองคำล่วงหน้า หรือ Gold Future นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ระดับ 2,055.70 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ +29.50 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ หรือ +0.9% ส่งผลรวม 4 วันทำการให้ราคาทองคำล่วงหน้าพุ่งทะยานรวมกันถึง 88.20 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์

ก่อนหน้านี้เมื่อกลางเดือนเมษายนผ่านไป ราคาทองคำล่วงหน้ามีราคาปิดสูงสุดในรอบ 1 ปีที่ 2,048.71 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ จากวิกฤตธนาคารเอสวีบี และเอสบี ปิดกิจการและถูกควบคุมโดยทางการสหรัฐอเมริกา

ย้อนกลับไปในปี 2022 ผ่านไปเมื่อเดือนมีนาคม พบว่าราคาทองคำล่วงหน้ามีราคาสูงสุดระหว่างวันขึ้นไปถึง 2,072.49 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์

สาเหตุจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐกลับแข็งค่าขึ้น รับกับผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอเมริกาอายุ 10 ปี พลิกกลับเพิ่มขึ้นจากที่เคยลดลงในระดับต่ำสุดในรอบเดือน หลังจากธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาปรับเพิ่มขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้นอีก 0.25% ซึ่งเป็นการปรับขึ้นครั้งที่ 10 ในรอบ 1 ปี

นอกจากนี้ นักลงทุนยังเฝ้าติดตามความเสี่ยงสูงจากปัจจัยการเมืองสหรัฐอเมริกาเกี่ยวกับความตึงเครียดกับการพิจารณากฎหมายขยายการกู้ยืมเงินของรัฐบาลเพื่อหลีกเลี่ยงภาวะรัฐบาลสหรัฐอเมริกาไม่สามารถชำระคืนหนี้สินได้ก่อนถึงวันที่ 1 มิถุนายนนี้ นอกจากนี้ รัฐมนตรีคลังสหชี้แจงว่าสหรัฐอเมริกามีเงินงบประมาณสำหรับการใช้จ่ายบริหารประเทศได้เพียงอีก 1 เดือนเท่านั้น

ทั้งนี้ นักวิเคราะห์ประเมินว่า มีโอกาส 25% ที่ธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาจะลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนมิถุนายนนี้ ในขณะที่การปรับขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้นในการประชุมคืนวันนี้อาจจะเป็นครั้งสุดท้าย