ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดดิ่งแรงอีก 270 จุด น้ำมันดิบโลกดิ่งระนาวหลุด 69 ดอลลาร์

108
0
Share:
ดัชนี หุ้น ดาวโจนส์ ปิดดิ่งแรงอีก 270 จุด น้ำมันดิบโลกดิ่งระนาวหลุด 69 ดอลลาร์

เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2023 (ตามเวลาในสหรัฐ) ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดที่ระดับ 33,414 จุด -270 จุด หรือ -0.80% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ระดับ 4,080 จุด -28 จุด หรือ -0.70% และดัชนีหุ้นนาสแดค ปิดที่ระดับ 12,025 จุด -55 จุด หรือ -0.46%

สาเหตุจากคณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา หรือเฟด มีมติปรับขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้นอีก 0.25% ซึ่งนับเป็นการขึ้นดอกเบี้ยครั้งที่ 10 ติดต่อกันในรอบ 1 ปี หรือนับตั้งแต่เดือนมีนาคม 2022 และเป็นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นของสหรัฐอเมริกาที่สูงสุดในรอบ 16 ปี นอกจากนี้ การแถลงของประธานเฟด นายเจอโรม พาวเวลล์ เกี่ยวกับมุมมองของเงินเฟ้อในสหรัฐอเมริกา พบว่าเงินเฟ้อในสหรัฐอเมริกายังคงอยู่ในระดับสูงต่อเนื่อง ทำให้นักลงทุนยังมีความกังวลต่อเนื่อง และอาจไม่มีการหยุดขึ้นดอกเบี้ยดังกล่าวในการประชุมครั้งต่อไปในเดือนมิถุนายนนี้

สถานการณ์การเมืองในรัฐสภาคองเกรสของสหรัฐอเมริกาที่กำลังตึงเครียดกับการพิจารณากฎหมายขยายการกู้ยืมเงินของรัฐบาลเพื่อหลีกเลี่ยงภาวะรัฐบาลสหรัฐอเมริกาไม่สามารถชำระคืนหนี้สินได้ก่อนถึงวันที่ 1 มิถุนายนนี้

นักลงทุนเกิดความกังวล และไม่มีความมั่นใจอย่างมากกับสถานการณ์ธนาคารระดับภูมิภาคอื่นๆ โดยเฉพาะธนาคารแพคเวสท์ในสหรัฐอเมริกาที่กำลังเกิดปัญหาตามมา หลังจากธนาคารเฟิร์สท รีพลับลิก แบงก์ ล่มสลายเป็นธนาคารแห่งที่ 3 ใน 2 เดือนผ่านมาของสหรัฐอเมริกา นักลงทุนกระหน่ำเทขายหุ้นของธนาคารระดับภูมิภาคของสหรัฐอเมริกาแทบทุกแห่งในคืนผ่านมา

ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 68.60 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล -3.06 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -4.3% โดยมีราคาดำดิ่งต่ำสุดระหว่างวันในคืนผ่านมาที่ระดับ 67.95 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ราคาปิดในคืนผ่านมาทำสถิติราคาปิดต่ำสุดในรอบ 5 สัปดาห์เป็นวันที่ 2 ติดต่อกัน

ขณะที่เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม ตามเวลาในสหรัฐอเมริกา ยังทำสถิติราคาน้ำมันดิบดำดิ่งในแง่เปอร์เซ็นต์มากที่สุดในรอบ 17 สัปดาห์ หรือตั้งแต่มกราคมปีนี้

ราคาปิดในคืนผ่านมา ส่งผลราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก ร่วง 3 วันทำการ(ตั้งแต่วันศุกร์ที่ 28 เมษายน วันจันทร์ที่ 1 และวันอังคารที่ 2 พฤษภาคม) ติดต่อกัน 8.18 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล

ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2565 มีราคาพุ่งขึ้นสูงสุดที่ 130.50 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ทำสถิติราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ที่สูงสุดนับตั้งแต่กันยายน 2008 หรือในรอบ 13 ปี 5 เดือน

ด้านราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 72.33 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล -2.99 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -4.00% โดยมีราคาดำดิ่งต่ำสุดระหว่างวันในคืนผ่านมาที่ระดับ 71.70 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ราคาปิดในคืนผ่านมาทำสถิติราคาปิดต่ำสุดในรอบ 1 ปี 4 เดือน หรือตั้งแต่ธันวาคม 2021 เป็นต้นมา

ขณะที่เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม ตามเวลาในสหรัฐอเมริกา ยังทำสถิติราคาปิดต่ำสุด 5 สัปดาห์ หรือนับตั้งแต่ 24 มีนาคมผ่านมา แต่ยังเป็นสถิติราคาน้ำมันดิบดำดิ่งในแง่เปอร์เซ็นต์มากที่สุดในรอบ 17 สัปดาห์ หรือตั้งแต่มกราคมปีนี้

ราคาปิดในคืนผ่านมา ส่งผลราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ร่วง 3 วันทำการ(ตั้งแต่วันศุกร์ที่ 28 เมษายน วันจันทร์ที่ 1 และวันอังคารที่ 2 พฤษภาคม) ติดต่อกัน 7.21 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล

ในปี 2022 ผ่านไปราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ มีราคาสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2008 หรือในรอบ 13 ปี 7 เดือน โดยเมื่อคืนวันจันทร์ที่ 7 มีนาคม 2565 มีขึ้นมาสูงสุดระหว่างวันที่ระดับ 139.13 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล

สาเหตุจากนักลงทุนเฝ้าติดตามและประเมินสถานการณ์การเมืองในรัฐสภาคองเกรสของสหรัฐอเมริกาที่กำลังตึงเครียดกับการพิจารณากฎหมายขยายการกู้ยืมเงินของรัฐบาลเพื่อหลีกเลี่ยงภาวะรัฐบาลสหรัฐอเมริกาไม่สามารถชำระคืนหนี้สินได้ก่อนถึงวันที่ 1 มิถุนายนนี้ นอกจากนี้ รัฐมนตรีคลังสหรัฐชี้แจงว่าสหรัฐอเมริกามีเงินงบประมาณสำหรับการใช้จ่ายบริหารประเทศได้เพียงอีก 1 เดือนเท่านั้น

ด้านตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกายังคงแสดงถึงภาวะชะลอตัวต่อเนื่อง หลังจากตัวเลขการเปิดรับสมัครงานตำแหน่งใหม่เดือนมีนาคมผ่านมาตกต่ำเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน และตัวเลขการปลดพนักงานพุ่งสูงในรอบกว่า 2 ปี

ภาวะเศรษฐกิจจีนแผ่นดินใหญ่มีสัญญาณไม่สู้ดี หลังจากตัวเลขกิจกรรมภาคการผลิตอุตสาหกรรมในเดือนเมษายนลดลงอย่างที่ไม่เคยคาดการณ์มาก่อน สะท้อนผลกระทบการบริโภคน้ำมันดิบของจีนแผ่นดินใหญ่ลดต่ำลง

ราคาทองคำส่งมอบทันที หรือ Gold Spot ปิดที่ 2,016.71 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ พุ่งทะยานถึง +22.39 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ +1.13% ทำสถิติราคาปิดสูงสุดตั้งแต่ 14 เมษายน หรือในรอบ 3 สัปดาห์ผ่านมา

ขณะที่ราคาทองคำล่วงหน้า หรือ Gold Future นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ระดับ 2,026.20 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ +10.80 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ หรือ +0.7% ส่งผลรวม 3 วันทำการให้ราคาทองคำล่วงหน้าพุ่งทะยานรวมกันถึง 58.70 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์

ก่อนหน้านี้เมื่อกลางเดือนเมษายนผ่านไป ราคาทองคำล่วงหน้ามีราคาปิดสูงสุดในรอบ 1 ปีที่ 2,048.71 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ จากวิกฤตธนาคารเอสวีบี และเอสบี ปิดกิจการและถูกควบคุมโดยทางการสหรัฐอเมริกา

ย้อนกลับไปในปี 2022 ผ่านไปเมื่อเดือนมีนาคม พบว่าราคาทองคำล่วงหน้ามีราคาสูงสุดระหว่างวันขึ้นไปถึง 2,072.50 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ทำสถิติสูงสุดนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2020 หรือในรอบ 18 เดือน

สาเหตุจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐกลับแข็งค่าขึ้น รับกับผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอเมริกาอายุ 10 ปี พลิกกลับเพิ่มขึ้นจากที่เคยลดลงในระดับต่ำสุดในรอบเดือน หลังจากธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาปรับเพิ่มขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้นอีก 0.25% ซึ่งเป็นการปรับขึ้นครั้งที่ 10 ในรอบ 1 ปี

นอกจากนี้ นักลงทุนยังเฝ้าติดตามความเสี่ยงสูงจากปัจจัยการเมืองสหรัฐอเมริกาเกี่ยวกับความตึงเครียดกับการพิจารณากฎหมายขยายการกู้ยืมเงินของรัฐบาลเพื่อหลีกเลี่ยงภาวะรัฐบาลสหรัฐอเมริกาไม่สามารถชำระคืนหนี้สินได้ก่อนถึงวันที่ 1 มิถุนายนนี้ นอกจากนี้ รัฐมนตรีคลังสหชี้แจงว่าสหรัฐอเมริกามีเงินงบประมาณสำหรับการใช้จ่ายบริหารประเทศได้เพียงอีก 1 เดือนเท่านั้น

ทั้งนี้ นักวิเคราะห์ประเมินว่า มีโอกาส 25% ที่ธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาจะลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนมิถุนายนนี้ ในขณะที่การปรับขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้นในการประชุมคืนวันนี้อาจจะเป็นครั้งสุดท้าย