ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดพุ่งทะยานกว่า 570 จุด น้ำมันดิบพุ่งปิดเฉียด 120 ดอลลาร์ ราคาทองคำปิดแตะ 1,850 ดอลลาร์
เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2565 (ตามเวลาในสหรัฐ) ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดที่ระดับ 33,212 จุด +575 จุด หรือ +1.76% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 อยู่ที่ระดับ 4,158 จุด +100 จุด หรือ +2.47% และดัชนีหุ้นนาสแดค อยู่ที่ระดับ 12,131 จุด +390 จุด หรือ +3.33% ในสัปดาห์ที่ผ่านไป ดัชนีหุ้นสำคัญทั้ง 3 แห่ง ปรับเพิ่มสูงขึ้น +6.2%, +6.5% และ +6.8% ตามลำดับ นอกจากนี้ยังสามารถหยุดสถิติดัชนีหุ้นปิดร่วงลงถึง 7-8 สัปดาห์ติดกันเป็นผลสำเร็จ โดยเฉพาะดัชนีหุ้นดาวโจนส์ที่ปิดติดลบถึง 8 สัปดาห์ติดต่อกัน ทำสถิติยาวนานที่สุดในรอบ 99 ปี หรือตั้งแต่ปี 1923 เป็นต้นมา
อย่างไรก็ตาม ดัชนีหุ้นนาสแดคยังคงอยู่ในภาวะตลาดหมี หรือ Bear Market เนื่องจากดัชนีหุ้นนาสแดคตกต่ำมากถึง -25.2% เมื่อเทียบกับสถิติดัชนีหุ้นาสแดคสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในช่วงผ่านมา สอดคล้องกับดัชนีหุ้นดาวโจนส์ และเอสแอนด์พี 500 ที่ร่วงลงมากถึง -10.1% และ 13.7% ตามลำดับ ซึ่งยังคงอยู่ในภาวะดัชนีปรับฐาน หรือ Correction
สาเหตุจากนักลงทุนคลายความกังวลอย่างมากเมื่อตัวเลขเงินเฟ้อขั้นพื้นฐานมนเดือนเมษายน ซึ่งไม่นับรวมราคาอาหารและราคาพลังงาน เพิ่มขึ้นเพียง 4.9% เมื่อเทียบกับในเดือนมีนาคมที่พุ่งสูงถึง 5.2% อาจสะท้อนสัญญาณเงินเฟ้อในสหรัฐอเมริกาถึงจุดสูงสุดตามที่หลายฝ่ายกังวลมากันอย่างมากมาย
ตลาดซื้อขายสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า รายงานว่า ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 115.07 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +0.98 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +0.9% ส่งผลทำสถิติราคาปิดสูงสุดในรอบ 2 เดือน หรือนับตั้งแต่วันที่ 23 มีนาคมผ่านมา ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2565 มีราคาพุ่งขึ้นสูงสุดที่ 130.50 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ทำสถิติราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ที่สูงสุดนับตั้งแต่กันยายน 2008 หรือในรอบ 13 ปี 5 เดือน
ด้านราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 119.43 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +2.03 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +1.7% ส่งผลทำสถิติราคาปิดสูงสุดในรอบ 2 เดือน หรือนับตั้งแต่วันที่ 25 มีนาคมผ่านมา ก่อนหน้านี้ราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ มีราคาสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2008 หรือในรอบ 13 ปี 7 เดือน โดยเมื่อคืนวันจันทร์ที่ 7 มีนาคม 2565 มีขึ้นมาสูงสุดระหว่างวันที่ระดับ 139.13 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล
ในสัปดาห์ที่ผ่านไป ราคาน้ำมันดิบตลาดโลกทั้ง 2 แห่ง พุ่งสูงขึ้นถึง +1.5% และ +6.0% ตามลำดับ
สาเหตุจากตลาดน้ำมันดิบ และน้ำมันสำเร็จรูปในสหรัฐอเมริกามีปริมาณสต็อกตึงตัวต่อเนื่อง ทำให้เป็นไปได้สูงที่จะอยู่ในสถานการณ์นี้ไปถึงช่วงฤดูร้อนที่กำลังจะมาถึง ซึ่งเป็นช่วงที่มีการใช้น้ำมันเป็นจำนวนมากในสหรัฐอเมริกา นอกจากนี้ นายชาร์ลส์ มิเชล ประธานสภาสหภาพยุโรป มั่นใจว่าข้อตกลงในการคว่ำบาตรน้ำมันดิบกับรัสเซียของประเทศฮังการีร่วมกับสหภาพยุโรปจะได้ข้อยุติก่อนถึงวันประชุมอีกครั้งในวันที่ 30 พฤษภาคมนี้
ราคาทองคำล่วงหน้านิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 1,851 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ +1.20 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ +0.2% ในสัปดาห์ผ่านไป ราคาทองคำตลาดโลกปรับขึ้น +0.5% ก่อนหน้านี้ ราคาทองคำล่วงหน้ามีราคาสูงสุดระหว่างวันขึ้นไปถึง 2,072.50 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ทำสถิติสูงสุดนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2020 หรือในรอบ 18 เดือน
สาเหตุจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐกลับทรงตัว และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐระยะสั้นทรงตัวระดับ 3% ซึ่งเคยเป็นสถิติสูงสุดในรอบ 3 ปี หลังเงินเฟ้อในเมษายนของสหรัฐอเมริกายังคงเพิ่มขึ้นที่ระดับ 8.3% ซึ่งสูงกว่าที่คาดไว้
