ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดพุ่งแรงกว่า 300 จุด น้ำมันดิบโลกปิดพุ่งเหนือ 87 ดอลลาร์

186
0
Share:
ดัชนี หุ้น ดาวโจนส์ ปิดพุ่งแรงกว่า 300 จุด น้ำมันดิบโลกปิดพุ่งเหนือ 87 ดอลลาร์

เมื่อวันที่ 20 มกราคม 2566 (ตามเวลาในสหรัฐ) ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดที่ระดับ 33,375 จุด +330 จุด หรือ +1.00% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ระดับ 3,972 จุด +73 จุด หรือ +1.89% และดัชนีหุ้นนาสแดค ปิดที่ระดับ 11,140 จุด +288 จุด หรือ +2.66% หยุดดัชนีหุ้นดาวโจนส์ดำดิ่งใน 3 วันติดต่อกันถึง -1,259 จุด ในสัปดาห์นี้ ดัชนีหุ้นสำคัญทั้ง 3 แห่ง ปิดสวนทางกัน -2.70%, -0.66% และ +0.55% ตามลำดับ

สาเหตุจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีกลับมาคึกคัก เนื่องจากหุ้นเน็ตฟชิกซ์ปิดเพิ่มขึ้น 8.5% จากจำนวนสมาชิกที่เพิ่มสูงขึ้นมาก กว่าที่คาดไว้ นอกจากนี้ ราคาหุ้นอัลฟาเบธ ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของกูเกิล ปรับเพิ่มขึ้นกว่า 5% หลังประกาศปลดพนักงานมากถึง 12,000 คนทั่วโลก ท่ามกลางตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกา ได้แก่ ยอดขายบ้านมือสองในตลาดประจำเดือนธันวาคมลดลง -1.5% เทียบเดือนก่อนหน้านั้น และดำดิ่งมากถึง -34% เทียบช่วงเดียวกันในปีผ่านมา ทำสถิติตกต่ำสุดในรอบ 13 ปี

ขณะที่ กรรมการผู้จัดการไอเอ็มเอฟ กล่าวว่าภาวะเศรษฐกิจโลกกระเตื้องขึ้นเล็กน้อย แต่ยังคงไม่เป็นผลดี ด้านมุมมองของผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา หรือเฟด ส่งสัญญาณว่าอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นจะต้องสูงกว่าที่เคยคาดการณ์ไว้ แม้แต่ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หรือซีอีโอ ธนาคารเจพี มอร์แกน เชส แอนด์ โค กล่าวว่า อัตราดอกเบี้ยเฟดจะต้องสูงกว่าระดับ 5%

ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 81.31 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +0.98 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +1.2% ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2565 มีราคาพุ่งขึ้นสูงสุดที่ 130.50 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ทำสถิติราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ที่สูงสุดนับตั้งแต่กันยายน 2008 หรือในรอบ 13 ปี 5 เดือน ทำให้ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ปิดเพิ่มขึ้น 5 วันทำการติดต่อกัน ซึ่งเป็นครั้งแรกในรอบ 2 เดือนครึ่ง หรือตั้งแต่ตุลาคม 2022

ด้านราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 87.63 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +1.47 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +1.7% ในปีผ่านไปราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ มีราคาสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2008 หรือในรอบ 13 ปี 7 เดือน โดยเมื่อคืนวันจันทร์ที่ 7 มีนาคม 2565 มีขึ้นมาสูงสุดระหว่างวันที่ระดับ 139.13 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล

ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบทั้ง 2 แห่ง ปิดสูงสุดในรอบ 1 เดือน 3 สัปดาห์ หรือนับตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2022 เป็นวันที่ 2 ติดต่อกัน นอกจากนี้ในสัปดาห์นี้ ราคาน้ำมันดิบทั้ง 2 แห่ง ปิดเพิ่มขึ้น 1.8% และ 2.8% ตามลำดับ

สาเหตุจากจีนแผ่นดินใหญ่บริโภคน้ำมันดิบเดือนธันวาคม 2022 เพิ่มสูงเกือบ 1 ล้านบาร์เรลจากเดือนพฤศจิกายนที่ระดับ 15.41 ล้านบาร์เรล ทำสถิติสูงสุดในรอบ 10 เดือน หรือนับตั้งแต่กุมภาพันธ์ในปีเดียวกัน นอกจากนี้ สำนักงานพลังงานระหว่างประเทศ หรือไออีเอ เปิดเผยว่า ตลาดน้ำมันดิบโลกปีนี้จะตึงตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเศรษฐกิจจีนฟื้นตัวท่ามกลางรัสเซียตกอยู่ในสถานการณ์ผลิตน้ำมันดิบลดต่ำลงจากผลกระทบของมาตรการคว่ำบาตร ในขณะเดียวกัน ปริมาณการบริโภคน้ำมันดิบทั่วโลกในปีนี้จะทำสถิติเป็นประวัติการณ์จากการที่จีนเปิดประเทศ

ราคาทองคำล่วงหน้า หรือ Gold Future นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 1,928.20 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ +4.30 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำส่งมอบทันที หรือ Gold Spot ปิดที่ระดับ 1,925.23 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ลดลง -0.15% ในสัปดาห์นี้ ราคาทองคำปิดเพิ่มขึ้น 0.4%

ในปีผ่านไปเมื่อเดือนมีนาคม 2565 ราคาทองคำล่วงหน้ามีราคาสูงสุดระหว่างวันขึ้นไปถึง 2,072.50 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ทำสถิติสูงสุดนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2020 หรือในรอบ 18 เดือน

สาเหตุจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพลิกกลับแข็งค่าขึ้น ท่ามกลางการส่งสัญญาณจากบรรดาผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา หรือเฟด ที่มองว่าอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นสุดท้ายอาจต้องสูงกว่าที่เคยคาดการณ์ไว้เมื่อช่วงปลายปีผ่านมา

ขณะที่ตัวชี้วัดโอกาสการปรับขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้นของธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา หรือ เฟดฟันด์ พบว่านักลงทุนให้น้ำหนักเพิ่มสูงถึง 91.6% ที่จะปรับขึ้นดอกเบี้ยดังกล่าวเพียง 0.25% ในการประชุมนัดแรกของปีนี้ในวันที่ 31 มกราคมถึงวันที่ 1 กุมภาพันธ์นี้