ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดพุ่งกว่า 160 จุด น้ำมันดิบโลกปิดลงเหลือกว่า 75 ดอลลาร์

143
0
Share:
ดัชนี หุ้น ดาวโจนส์ ปิดพุ่งกว่า 160 จุด น้ำมันดิบโลกปิดลงเหลือกว่า 75 ดอลลาร์

เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2023 (ตามเวลาในสหรัฐ) ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดที่ระดับ 33,833 จุด +168 จุด หรือ +0.50% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ระดับ 4,293 จุด +26 จุด หรือ +0.62% และดัชนีหุ้นนาสแดค ปิดที่ระดับ 13,238 จุด +133 จุด หรือ +1.02%

สาเหตุจากนักลงทุนกลับเข้าลงทุนหุ้นรอบใหม่หลังจากเมื่อวันจันทร์ผ่านมา ได้เทขายอย่างหนาตาเพื่อทำกำไรช่วงสั้นเป็นผลจากเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมานั้น ดัชนีหุ้นสำคัญทุกตัวโดยเฉพาะดัชนีหุ้นดาวโจนส์พุ่งทะยานกว่า 700 จุด นักลงทุนยังประเมินแนวโน้มที่ธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาอาจจะเริ่มตรึงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นในการประชุมวันที่ 13-14 มิถุนายนนี้ เนื่องจากตัวเลขจ้างงานชาวอเมริกันนอกภาคการเกษตรเดือนพฤษภาคมพุ่งสูงมากถึง 339,000 คน ซึ่งมากกว่าที่คาดไว้ที่ระดับ 190,000 คน และยังเป็นตัวเลขจ้างงานที่เพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 29 ติดต่อกัน หรือ 3 ปีติดต่อกัน สิ่งสำคัญคือ อัตราเงินค่าจ้างรายชั่วโมงเฉลี่ยเพิ่มขึ้นน้อยกว่าที่คาดไว้ ทำให้ประเมินว่าอาจเป็นแรงลดความกดดันของเฟดในการประชุมดอกเบี้ยระยะสั้น อย่างไรก็ตาม อัตราการว่างงานเดือนดังกล่าวกลับเพิ่มสูงขึ้นที่ระดับ 3.7% ทำสถิติว่างงานมากสุดในรอบ 7 เดือนผ่านมา จากที่ในเดือนเมษายน ตัวเลขดังกล่าวอยู่ที่รระดับ 3.4% ต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ในรอบ 53 ปี

ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 71.29 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล -1.24 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -1.7%

ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2565 มีราคาพุ่งขึ้นสูงสุดที่ 130.50 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ทำสถิติราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ที่สูงสุดนับตั้งแต่กันยายน 2008 หรือในรอบ 13 ปี 5 เดือน

ด้านราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 75.96 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล -0.99 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -1.3%

ในปี 2022 ผ่านไปราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ มีราคาสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2008 หรือในรอบ 13 ปี 7 เดือน โดยเมื่อคืนวันจันทร์ที่ 7 มีนาคม 2565 มีขึ้นมาสูงสุดระหว่างวันที่ระดับ 139.13 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล

สาเหตุจากรัฐบาลสหรัฐอเมริกาและรัฐบาลอิหร่านออกมาปฏิเสธเกี่ยวกับการเจรจาข้อตกลงนิวเคลียร์ที่จะใกล้ได้ข้อยุติ

ราคาทองคำส่งมอบทันที หรือ Gold Spot ปิดที่ 1,965.10 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ +24.85 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ +1.3% ขณะที่ราคาทองคำล่วงหน้า หรือ Gold Future นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ระดับ 1,980.30 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ +21.90 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ +1.1%

ก่อนหน้านี้เมื่อกลางเดือนเมษายนผ่านไป ราคาทองคำล่วงหน้ามีราคาปิดสูงสุดในรอบ 1 ปีที่ 2,048.71 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ จากวิกฤตธนาคารเอสวีบี และเอสบี ปิดกิจการและถูกควบคุมโดยทางการสหรัฐอเมริกา

ย้อนกลับไปในปี 2022 ผ่านไปเมื่อเดือนมีนาคม พบว่าราคาทองคำล่วงหน้ามีราคาสูงสุดระหว่างวันขึ้นไปถึง 2,072.49 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์

สาเหตุจากตัวเลขแรงงานอเมริกันขอใช้สิทธิสวัสดิการช่วงว่างงานรายสัปดาห์กลับเพิ่มขึ้นมากกว่าที่ตลาดคาดไว้ ทำให้นักลงทุนประเมินว่ามีแนวโน้มที่การประชุมของเฟดในกลางสัปดาห์หน้า จะตรึงดอกเบี้ยระยะสั้น รวมถึงการประกาศตัวเลขเงินเฟ้อเดือนพฤษภาคมในวันที่ 13 มิถุนายนก่อนถึงวันประชุมของเฟดเพียง 1 วัน

ขณะนี้ ตัวชี้วัดการเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่เรียกว่า เฟดวอช์ท พบว่า โอกาสตรึงดอกเบี้ยระยะสั้นของธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 74% มากกว่าก่อนหน้านี้ที่ระดับ 66%