ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดพุ่งกว่า 240 จุด น้ำมันดิบโลกปิดขึ้นเหนือกว่า 84 ดอลลาร์

เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2023 (ตามเวลาในสหรัฐ) ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดที่ระดับ 34,346 จุด +247 จุด หรือ +0.73% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ระดับ 4,405 จุด +29 จุด หรือ +0.67% และดัชนีหุ้นนาสแดค ปิดที่ระดับ 13,590 จุด +126 จุด หรือ +0.94% ส่งผลให้ดัชนีหุ้นสำคัญทั้ง 3 แห่ง ปิดดำดิ่งใน 1 วันทำการที่มากที่สุดในรอบ 4 เดือนกว่า และในรอบ 3 สัปดาห์ตามลำดับ

สาเหตุจากนักลงทุนกลับลำมาให้น้ำหนักกับประเด็นภาวะเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง โดยเมินประเด็นอัตราเงินเฟ้อสหรัฐอเมริกายังอยู่ในระดับสูงเกินไป ซึ่งทำให้ธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาเตรียมขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้นสูงต่อไป ทั้ง 2 ประเด็นสำคัญเป็นเนื้อหาจากการกล่าวปาฐกถาของนายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาในการเปิดการประชุมประจำปีของธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาที่แจกสัน โฮล์ ในคืนผ่านมา

ขณะที่ดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพุ่งสูงขึ้นแตะที่ระดับ 10.4.42 เพิ่มขึ้น 0.4% ทำสถิติในรอบ 5 เดือน หรือตั้งแต่ 16 มีนาคมผ่านมา ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอเมริการะยะสั้นอายุ 10 ปี ยังคงเพิ่มขึ้นมาที่ระดับ 4.233% ซึ่งยังคงใกล้เคียงระดับ 4.34% ทำสถิติสูงสุดในรอบ 15 ปี 8 เดือนกว่า หรือนับตั้งแต่พฤศจิกายนปี 2007 เป็นต้นมาก็ตาม ซึ่งเป็นผลลบต่อธุรกิจหรือหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี

ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 79.83 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +0.78 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +0.1% ส่งผลราคาน้ำมันดิบขึ้น 2 วันติดกันรวม +0.94 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล หรือ +1.2%

ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2565 มีราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ สหรัฐอเมริกา พุ่งขึ้นสูงสุดที่ 130.50 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ทำสถิติราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ที่สูงสุดนับตั้งแต่กันยายน 2008 หรือในรอบ 13 ปี 5 เดือน

ด้านราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 84.48 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +1.12 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +1.3% ส่งผลราคาน้ำมันดิบปรับขึ้น 2 วันติดกันรวม +1.27 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล

ในปี 2022 ผ่านไปราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ มีราคาสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2008 หรือในรอบ 13 ปี 7 เดือน โดยเมื่อคืนวันจันทร์ที่ 7 มีนาคม 2565 มีขึ้นมาสูงสุดระหว่างวันที่ระดับ 139.13 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล

สาเหตุจากราคาน้ำมันดีเซลล่วงหน้าพุ่งทะยานสูงถึง 5% ทำสถิติสูงสุดในรอบ 7 เดือนผ่านมา ส่งต่อกำไรราคาน้ำมันดีเซลพุ่งสูงสุดในรอบ 8 เดือน หรือนับตั้งแต่วันที่ 23 มกราคมเป็นต้นมา เนื่องจากโรงกลั่นน้ำมันสำเร็จรูปที่หลุยส์เซียน่า สหรัฐอเมริกา เกิดไฟไหม้ และจำนวนการเปิดหลุมขุดเจาะน้ำมันดิบในสหรัฐอเมริกามีจำนวนลดลง

ราคาทองคำส่งมอบทันที หรือ Gold Spot ปิดที่ 1,913.36 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ -3.30 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ -0.21% ขณะที่ราคาทองคำล่วงหน้า หรือ Gold Future นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ระดับ 1,939.90 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ -7.20 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ -0.4% ส่งผลให้ราคาทองคำยังคงมีราคาปิดใกล้เคียงระดับสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์

เมื่อกลางเดือนเมษายนผ่านไป ราคาทองคำล่วงหน้ามีราคาปิดสูงสุดในรอบ 1 ปีที่ 2,048.71 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ จากวิกฤตธนาคารเอสวีบี และเอสบี ปิดกิจการและถูกควบคุมโดยทางการสหรัฐอเมริกา

ย้อนกลับไปในปี 2022 ผ่านไปเมื่อเดือนมีนาคม พบว่าราคาทองคำล่วงหน้ามีราคาสูงสุดระหว่างวันขึ้นไปถึง 2,072.49 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์

สาเหตุจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น สอดคล้องกับผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอเมริการะยะสั้นอายุ 10 ปี ปรับขึ้นมาใกล้เคียงระดับสูงสุดในรอบกว่า 16 ปีเมื่อวันอังคารผ่านมา

นักลงทุนให้น้ำหนักสัญญาณและแรงกดดันต่อแนวโน้มการปรับขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้นของธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาหลังจากการกล่าวปาฐกถาพิเศษของประธานธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาในคืนผ่านมาที่ยังคงส่งสัญญาณเปิดโอกาศปรับขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้นมากขึ้นต่อไป

ขณะนี้ ตัวชี้วัดการเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่เรียกว่า เฟดวอช์ท พบว่า โอกาสตรึงดอกเบี้ยระยะสั้นของธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาในการประชุมครั้งต่อไปในเดือนกันยายน เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 91%