ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดร่วงแรงเกือบ 200 จุด น้ำมันดิบโลกปิดพุ่งใกล้ 88 ดอลลาร์

146
0
Share:
ดัชนี หุ้น ดาวโจนส์ ปิดร่วงแรงเกือบ 200 จุด น้ำมันดิบโลกปิดพุ่งใกล้ 88 ดอลลาร์

เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2023 (ตามเวลาในสหรัฐ) ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดที่ระดับ 35,123 จุด -191 จุด หรือ -0.54% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ระดับ 4,467 จุด -31 จุด หรือ -0.70% และดัชนีหุ้นนาสแดค ปิดที่ระดับ 13,722 จุด -162 จุด หรือ -1.17%

สาเหตุจากนักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มสถาบันการเงินของสหรัฐอเมริกาต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 ติดต่อกันหลังจากมูดี้ส์ อินเวอสเตอร์ เซอร์วิส ซึ่งเป็นบริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือการลงทุนชื่อดังระดับโลกในสหรัฐอเมริกา ปรับลดอันดับการลงทุนหรือเรตติ้งของธนาคารพาณิชย์ขนาดกลางและเล็กในสหรัฐอเมริกา นอกจากนี้ นักลงทุนรอการประกาศอัตราเงินเฟ้อผู้บริโภคทั่วไปและขั้นพื้นฐานเดือนกรกฎาคมที่จะประกาศในคืนวันนี้ ซึ่งคาดการณ์ว่า จะเพิ่มขึ้น 0.2% เทียบกับเดือนมิถุนายน และคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 3.3% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันในปีผ่านมา

นักลงทุนยังคงติดตามแนวโน้มสูงในการประชุมดอกเบี้ยระยะสั้นของธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา หรือเฟด ที่จะมีการประชุมในเดือนหน้า ขณะที่ตัวชี้วัดแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นของธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา หรือเฟด ที่เรียกว่า ซีเอ็มอีเฟดวอทช์ ทูล พบว่า มีโอกาส 86.5% ที่เฟดจะตรึงดอกเบี้ยดังกล่าวในการประชุมเดือนกันยายนนี้

ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 84.40 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +1.48 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +1.8% ทำสถิติราคาปิดสูงสุดในรอบ 7 เดือนกว่า หรือตั้งแต่พฤศจิกายน 2022 ผ่านมา

ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2565 มีราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ สหรัฐอเมริกา พุ่งขึ้นสูงสุดที่ 130.50 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ทำสถิติราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ที่สูงสุดนับตั้งแต่กันยายน 2008 หรือในรอบ 13 ปี 5 เดือน

ด้านราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 87.55 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +1.38 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +1.6% ทำสถิติราคาปิดสูงสุดในรอบ 6 เดือนกว่า หรือตั้งแต่ 27 มกราคมผ่านมา

ในปี 2022 ผ่านไปราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ มีราคาสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2008 หรือในรอบ 13 ปี 7 เดือน โดยเมื่อคืนวันจันทร์ที่ 7 มีนาคม 2565 มีขึ้นมาสูงสุดระหว่างวันที่ระดับ 139.13 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล

สาเหตุจากปริมาณสำรองน้ำมันดิบรายสัปดาห์ในสหรัฐอเมริกาลดต่ำมากกว่าที่ตลาดคาดไว้มาก ปริมาณสำรองน้ำมันเบนซินรายสัปดาห์ลดลงมากถึง 2.7 ล้านบาร์เรล สอดคล้องกับปริมาณสำรองน้ำมันสำเร็จรูปรายสัปดาห์เมื่อรวมน้ำมันดีเซลและน้ำมันเชื้อเพลิงความร้อนลดลง 1.7 ล้านบาร์เรล

ตลาดคาดการณ์ยังคงคาดการณ์ว่าภาวะสต๊อกน้ำมันดิบโลกยังตึงตัวต่อเนื่องท่ามกลางรัสเซียลดการส่งออกน้ำมันดิบ สอดคล้องกับสำนักงานพลังงานระหว่างประเทศ หรือไออีเอ เปิดเผยว่าในครึ่งปีหลังนี้ ภาวะตลาดน้ำมันดิบโลกจะตึงตัว สาเหตุจากความต้องการใช้น้ำมันดิบของจีนแผ่นดินใหญ่

ราคาทองคำส่งมอบทันที หรือ Gold Spot ปิดที่ 1,915.98 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ลดลง -0.5% ขณะที่ราคาทองคำล่วงหน้า หรือ Gold Future นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ระดับ 1,950.60 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ลดลง -0.5%

เมื่อกลางเดือนเมษายนผ่านไป ราคาทองคำล่วงหน้ามีราคาปิดสูงสุดในรอบ 1 ปีที่ 2,048.71 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ จากวิกฤตธนาคารเอสวีบี และเอสบี ปิดกิจการและถูกควบคุมโดยทางการสหรัฐอเมริกา

ย้อนกลับไปในปี 2022 ผ่านไปเมื่อเดือนมีนาคม พบว่าราคาทองคำล่วงหน้ามีราคาสูงสุดระหว่างวันขึ้นไปถึง 2,072.49 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์

สาเหตุจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐกลับแข็งค่าขึ้นสอดคล้องกับผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอเมริกาอายุ 10 ปี กลับเพิ่มสูงขึ้น เพื่อรอการประกาศตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐอเมริกาเดือนกรกฎาคมในคืนวันนี้

นักลงทุนให้น้ำหนักสัญญาณและแรงกดดันต่อการตัดสินใจเรื่องดอกเบี้ยระยะสั้นของธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาในการประชุมเดือนกันยายน โดยเฉพาะการคาดการณ์ว่ารอบการสิ้นสุดการขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้นของเฟดจะเกิดขึ้นหรือไม่ และเร็วที่สุดเมื่อไหร่

ขณะนี้ ตัวชี้วัดการเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่เรียกว่า เฟดวอช์ท พบว่า โอกาสตรึงดอกเบี้ยระยะสั้นของธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาในการประชุมครั้งต่อไปในเดือนกันยายน เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 86.5%