ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดลงเบาบาง 4 จุด น้ำมันดิบโลกพลิกดิ่งแรงหลุด 70 ดอลลาร์

136
0
Share:
ดัชนี หุ้น ดาวโจนส์ ปิดลงเบาบาง 4 จุด น้ำมันดิบโลกพลิกดิ่งแรงหลุด 70 ดอลลาร์

เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2023 (ตามเวลาในสหรัฐ) ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดที่ระดับ 33,956 จุด -4 จุด หรือ -0.01% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ระดับ 4,381 จุด -16 จุด หรือ -0.37% และดัชนีหุ้นนาสแดค ปิดที่ระดับ 13,630 จุด +128 จุด หรือ +0.95%

สาเหตุจากคืนผ่านมาเป็นวันที่ 2 ของนายเจอร์โรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา หรือเฟด แถลงชี้แจงภาวะเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกากับคณะกรรมาธิการการเงิน รัฐสภาสหรัฐอเมริกา ซึ่งกล่าวว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นยังคงเป็นเป้าหมายที่ต้องดำเนินการต่อไป ขณะที่ธนาคารพาณิชย์ในสหรัฐอเมริกาที่มีสินทรัพย์ระหว่าง 100,000-250,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือระหว่าง 3.5-8.75 ล้านล้านบาทจะต้องเพิ่มเงินทุนในการดำเนินกิจการตามกฎเกณฑ์ใหม่ของเฟด

นักลงทุนเทขายทำกำไรช่วงสั้นทันทีหลังจากเสร็จสิ้นการแถลงชี้แจงภาวะเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาของประธานธนาคารกลางสหรัฐอเมริกากับคณะกรรมาธิการการเงิน รัฐสภาสหรัฐอเมริกาเป็นเวลา 2 วันติดกัน โดยประธานเฟดกล่าวว่า การลดอัตราเงินเฟ้อในสหรัฐอเมริกายังคงต้องใช้เวลาอีกยาวนาน

ขณะที่ตัวชี้วัดแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นของธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา หรือเฟด ที่เรียกว่า ซีเอ็มอีเฟดวอทช์ ทูล พบว่า มีโอกาส 67% ที่เฟดจะขึ้นดอกเบี้ยดังกล่าว 0.25% ในการประชุมเดือนกรกฎาคมนี้ ซึ่งลดลงจากเดิมที่ให้น้ำหนัก 70% ในรอบ 24 ชั่วโมงผ่านมา ที่สำคัญ โอกาสลดดอกเบี้ยอาจเกิดขึ้นในเดือนธันวาคมปีนี้ ซึ่งเร็วกว่าที่คาดไว้

ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 69.51 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล -3.02 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -4.2%

ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2565 มีราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ สหรัฐอเมริกา พุ่งขึ้นสูงสุดที่ 130.50 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ทำสถิติราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ที่สูงสุดนับตั้งแต่กันยายน 2008 หรือในรอบ 13 ปี 5 เดือน

ด้านราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 74.14 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล -2.98 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -3.9%

ในปี 2022 ผ่านไปราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ มีราคาสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2008 หรือในรอบ 13 ปี 7 เดือน โดยเมื่อคืนวันจันทร์ที่ 7 มีนาคม 2565 มีขึ้นมาสูงสุดระหว่างวันที่ระดับ 139.13 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล

สาเหตุจากภาวะการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นของธนาคารกลางสำคัญทั่วโลกยังคงมีต่อเนื่อง โดยเฉพาะธนาคารกลางอังกฤษปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยดังถึง 0.5% ในวานนี้ ซึ่งมากกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้มาก

นอกจากนี้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงอ่อนค่าลงหลังจากตลาดอัตราแลกเปลี่ยนคาดการณ์ว่า อัตราดอกเบี้ยระยะสั้นของธนาคารกลางสหรัฐอเมริกากำลังใกล้จุดสูงสุดในปีนี้ หลังเสร็จสิ้นการแถลงของประธานธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา

ตลาดซื้อขายทองคำโลก นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา รายงานว่า เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2023 ตามเวลาในสหรัฐอเมริกา พบว่า ราคาทองคำส่งมอบทันที หรือ Gold Spot ปิดที่ 1,936.96 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ -22.76 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ -0.9% ทำสถิติราคาทองคำสางมอบทันทีร่วงติดต่อกัน 5 วันทำการที่ยาวนานที่สุดในรอบ 4 เดือน และทำสถิติราคาทองคำปิดต่ำสุดในรอบ 3 เดือน

ขณะที่ราคาทองคำล่วงหน้า หรือ Gold Future นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ระดับ 1,925.20 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ -19.40 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ -1.0%

ก่อนหน้านี้เมื่อกลางเดือนเมษายนผ่านไป ราคาทองคำล่วงหน้ามีราคาปิดสูงสุดในรอบ 1 ปีที่ 2,048.71 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ จากวิกฤตธนาคารเอสวีบี และเอสบี ปิดกิจการและถูกควบคุมโดยทางการสหรัฐอเมริกา

ย้อนกลับไปในปี 2022 ผ่านไปเมื่อเดือนมีนาคม พบว่าราคาทองคำล่วงหน้ามีราคาสูงสุดระหว่างวันขึ้นไปถึง 2,072.49 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์

สาเหตุจากแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระนะสั้นของธนาคารกลางสำคัญทั่วโลกยังคงเป็นไปอย่างชัดเจน เมื่อคืนผ่านมา ธนาคารกลางอังกฤษขึ้นอัตราดอกเบี้ยดังกล่าวสูงถึง 0.5% ซึ่งเหนือความคาดหมาย ในขณะที่ประธายธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา นายเจอร์โรม พาวเวลล์ แถลงในวันที่ 2 ต่อคณะกรรมาธิการการเงินสภาล่างสหรัฐว่า เป็นการเร็วเกินไปที่จะพูดถึงรอบสิ้นสุดการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยดังกล่าวสูงขึ้นต่อเนื่องกลายเป็นต้นทุนที่สูงมากขึ้นในการลงทุนทองคำ

ขณะนี้ ตัวชี้วัดการเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่เรียกว่า เฟดวอช์ท พบว่า โอกาสขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้นของธนาคารกลางสหรัฐอเมริการาว 0.25% ในการประชุมครั้งต่อไปในเดือนกรกฎาคมเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 67% มากกว่าเมื่อวานนี้ที่ระดับ 70%