ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดลงแรงเกือบ 200 จุด บอนด์ยีลด์พุ่งทะลุเกิน 5% ในรอบกว่า 16 ปี

ตลาดหลักทรัพย์ นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา รายงานว่า เมื่อวันที่ 23 ตุลาคม 2023 (ตามเวลาในสหรัฐ) ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดที่ระดับ 32,936 จุด -190 จุด หรือ -0.58% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ระดับ 4,217 จุด -7 จุด หรือ -0.17% และดัชนีหุ้นนาสแดค ปิดที่ระดับ 13,018 จุด +34 จุด หรือ +0.27% ในสัปดาห์ผ่านไป ดัชนีหุ้นสำคัญทั้ง 3 แห่ง ปิดร่วงลง -1.6%, -2.4% และ -3.2% ตามลำดับ

สาเหตุจากผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอเมริกาอายุ 10 ปี พุ่งสูงขึ้นเหนือระดับ 5% เป็นครั้งที่ 2 ภายในเกือบ 1 สัปดาห์ผ่านมา และทำสถิติสูงสุดในรอบกว่า 16 ปี 3 เดือน โดยขึ้นไปแตะระดับ 5.004% เช่นเดียวกันกับผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอเมริกาอายุ 30 ปี พุ่งสูงขึ้นเหนือระดับ 5% เป็นครั้งแรกในรอบกว่า 16 ปี 3 เดือน

สะท้อนความน่ากังวลอย่างมากของนักลงทุนในตลาดหุ้นว่าทิศทางดอกเบี้ยระยะสั้นของธนาคารสหรัฐอเมริกาไม่มีความแน่นอนสูง นอกจากนี้การกล่าวปาฐกถาของนายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาในกลางสัปดาห์ผ่านไป ได้ส่งสัญญาณชัดเจนว่า รอบการสิ้นสุดการขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้นของเฟดยังไม่เกิดขึ้น ที่สำคัญ คือ ประธานธนาคารกลางเฟดกล่าวว่า อัตราดอกเบี้ยระยะสั้นของเฟดในปัจจุบันไม่ได้สูงเกินไป ภาวะอัตราเงินเฟ้อสหรัฐยังคงอยู่ในระดับสูง และการชะลอตัวเศรษฐกิจสหรัฐอาจมีความจำเป็นเพื่อทำให้อัตราเงินลดลง การปรับขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้นมากกว่าที่ตลาดมองว่าจะขึ้นไม่มากนัก

ตัวชี้วัดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่เรียกว่า เฟดวอช์ท พบว่า โอกาสไม่ปรับขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้นในการประชุมเดือนธันวาคมอยู่ที่ 70% จากเดิมที่โอกาสไม่ปรับขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้นอยู่ที่ 50%