ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดเพิ่มกว่า 160 จุด ราคาน้ำมันดิบปิดยืนเหนือ 70 ดอลลา
เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2564 (ตามเวลาในสหรัฐ) ตลาดหุ้นนิวยอร์ก สหรัฐ ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ ปิดที่ระดับ 35,264 จุด +162 จุด หรือ +0.46% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ระดับ 4,436 จุด +4 จุด หรือ +0.10% และดัชนีหุ้นนาสแดค ปิดที่ระดับ 14,788 จุด -72 จุด หรือ -0.49% ส่งผลดัชนีหุ้นดาวโจนส์ และเอสแอนด์พี 500 ปิดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่
สาเหตุจากวุฒิสมาชิกสหรัฐผ่านร่างกฎหมายโครงสร้างพื้นฐานมูลค่า 550,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 18.7 ล้านล้านบาท ส่งผลหุ้นกลุ่มพลังงาน กลุ่มก่อสร้าง กลุ่มอุตสาหกรรมการผลิต และกลุ่มสถาบันการเงินมีความคึกคัก
ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 68.29 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +1.81 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +2.7% ด้านราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 70.63 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +1.59 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +2.3%
สาเหตุจากตลาดคาดการณ์ว่าปริมาณสำรองน้ำมันดิบ และน้ำมันสำเร็จรูปรายสัปดาห์ในสหรัฐอเมริกาจะลดลง ท่ามกลางสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจโลก หลังจากเริ่มมีหลายประเทศกลับมาใช้มาตรการควบคุมและจำกัดการเดินทาง และท่องเที่ยวครั้งใหม่
ราคาทองคำล่วงหน้านิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 1,731.70 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ +5.20 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ +0.3% สาเหตุจากการฟื้นตัวของราคาทางเทคนิคหลังจากมีราคาตกต่ำอย่างต่อเนื่องกว่า 70 ดอลลาร์สหรัฐในช่วง 3 วันทำการติดต่อกันผ่านมา ท่ามกลางค่าเงินดอลลาร์สหรัฐกลับแข็งค่าขึ้น และผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐระยะสั้นขยับสูงขึ้นต่อเนื่องรับตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรในเดือนกรกฎาคมที่สูงเกือบ 1 ล้านคน สร้างแรงกดดันให้ธนาคารกลางสหรัฐอาจทบทวนมุมมองในการปรับขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้น
