ดัชนีหุ้นดาวโจนส์พุ่งกระชากแรงกว่า 700 จุด น้ำมันดิบโลกปิดทรงตัวกว่า 92 ดอลลาร์

เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2565 (ตามเวลาในสหรัฐ) ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดที่ระดับ 31,082 จุด +748 จุด หรือ +2.47% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ระดับ 3,752 จุด +86 จุด หรือ +2.37% และดัชนีหุ้นนาสแดค ปิดที่ระดับ 10,859 จุด +244 จุด หรือ +2.31% ในสัปดาห์นี้ ดัชนีหุ้นสำคัญทั้ง 3 แห่ง ปิดเพิ่มขึ้น +4.9%, +4.7% และ +5.2% ตามลำดับ นอกจากนี้ ในแง่ดัชนีหุ้นรายเดือน พบว่าตลาดหุ้นนิวยอร์ค สหรัฐอเมริกา ปิดทะยานขึ้นดีที่สุดในรอบ 3 เดือนกว่า หรือนับตั้งแต่เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา

สาเหตุจากนักลงทุนหวนกลับเข้าซื้อหุ้นที่มีราคาตกต่ำทางเทคนิกที่มากเกินไป หลังจากเกิดภาวะเทขายหุ้นอย่างรุนแรงในช่วงก่อนหน้านี้ รวมถึงค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพลิกร่วงอ่อนค่า รวมถึงดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับลดลง ตามด้วยผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอเมริกาอายุ 10 ปี กลับลดลงจากระดับสูงสุดในรอบกว่า 14 ปี หรือตั้งแต่กรกฎาคม 2008

ด้านผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา สาขาซาน ฟรานซิสโก นางแมรี ดัลลี กล่าวว่า ธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาควรจะหลีกเลี่ยงที่จะทำให้เศรษฐกิจสหรัฐตกอยู่ภาวะตกต่ำด้วยการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่มากเกินไป นอกจากนี้ อัตราดอกเบี้ยระยะสั้นในปัจจุบันกำลังเข้าใกล้จุดที่เฟดควรจะชะลอการปรับขึ้นอัตราดังกล่าว

ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 85.05 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +0.54 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +0.6% ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2565 มีราคาพุ่งขึ้นสูงสุดที่ 130.50 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ทำสถิติราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ที่สูงสุดนับตั้งแต่กันยายน 2008 หรือในรอบ 13 ปี 5 เดือน

ด้านราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 93.50 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +1.12 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +1.2% ก่อนหน้านี้ ราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ มีราคาสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2008 หรือในรอบ 13 ปี 7 เดือน โดยเมื่อคืนวันจันทร์ที่ 7 มีนาคม 2565 มีขึ้นมาสูงสุดระหว่างวันที่ระดับ 139.13 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล

ในสัปดาห์นี้ ราคาน้ำมันดิบตลาดโลกทั้ง 2 แห่ง ลดลง -0.7% และเพิ่มขึ้น 2.0% ตามลำดับ

สาเหตุจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพลิกร่วงอ่อนค่า รวมถึงดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับลดลง นอกจากนี้ คาดหวังว่ารัฐบาลจีนจะผ่อนคลายมาตรการควบคุมและป้องกันโรคระบาดโควิด-19 เร็วๆนี้ หลังเกิดการล็อคดาวน์เมืองเซี่ยงไฮ้รอบใหม่

ราคาทองคำล่วงหน้านิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 1,656.30 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ +24.40 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ +1.2% ส่งผลในสัปดาห์นี้ ราคาทองคำเพิ่มขึ้น 0.6% ก่อนหน้านี้ ย้อนกลับไปเมื่อเดือนมีนาคม 2565 ราคาทองคำล่วงหน้ามีราคาสูงสุดระหว่างวันขึ้นไปถึง 2,072.50 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ทำสถิติสูงสุดนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2020 หรือในรอบ 18 เดือน

สาเหตุจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพลิกร่วงอ่อนค่า รวมถึงดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับลดลง ตามด้วยผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอเมริกาอายุ 10 ปี กลับลดลงจากระดับสูงสุดในรอบกว่า 14 ปี หรือตั้งแต่กรกฎาคม 2008 ทั้งหมดเป็นผลจากมีกระแสการพูดคุยของบรรดาผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาเกี่ยวกับแนวโน้มที่จะทบทวนความเร็วในการปรับขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้น